บรรยากาศลงทุนยังเน้นเก็งกำไรหุ้นคาดงบเติบโตดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะ
เศรษฐกิจและการลงทุนอาจไม่สอดคล้องกันนัก กล่าวคือ ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น แต่ตัวเลขการลงทุนยังขยายตัวได้
InnovestX มองว่า เศรษฐกิจและการลงทุนอาจไม่สอดคล้องกันนัก กล่าวคือ ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงชัดเจนขึ้น แต่ตัวเลขการลงทุนยังขยายตัวได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสัญญาณจาก Fed ที่ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยแม้ว่าจะขึ้นยาวนานขึ้น ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการส่งออกจีน รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตที่หดตัวนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐานสูง อย่างไรก็ตาม การหดตัวในเดือนนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาโภคภัณฑ์เช่น เหล็กและเหล็กกล้าลดลง รวมถึงความต้องการในประเทศที่ชะลอลง
ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของจีนที่ชะลอลง (-0.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) เช่นเดียวกับการส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการค้าโลก นอกจากนั้น ยังเป็นทิศทางเดียวกับภาคการผลิตยุโรป และความเชื่อมั่นภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่หดตัวลงต่อเนื่อง
ในส่วนของเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 3.7% ในรอบเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาซื้อสุทธิตราสารหนี้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน 1.4 แสนล้านบาท ตามมุมมองเชิงบวกในไทย เศรษฐกิจฟื้นตัว ดุลบัญชีเดินสะพัดที่กลับมาทรงตัว การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น เงินเฟ้อของไทยผ่านจุดสูงสุด และทิศทางเงินบาทชะลอการอ่อนค่าลงหรือมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ทำให้มีบางส่วนเข้ามาลงทุนเพื่อเก็งกำไรค่าเงิน อย่างไรก็ตาม InnovestX ยังมีความกังวลในทิศทางค่าเงินบาทในระยะต่อไป จาก (1) ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ ที่จะมากขึ้น (2) ค่าเงินหยวนและเยนที่จะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง และ (3) ดุลบัญชีเดินสะพัดที่อาจกลับมาขาดดุลตามความเสี่ยงของการส่งออกในระยะต่อไป ทำให้ InnovestX เชื่อว่าค่าเงินบาทอาจไปแตะที่ 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ทั้งนี้ในส่วนของตลาดหุ้นไทย InnovestX มองว่า ช่วงที่ผ่านมาการปรับขึ้น SET Index มาจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าเป็นหลัก ซึ่งอาจไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทั้งหมด อย่างไรก็ดี ช่วงสั้นนี้คาดอารมณ์ตลาดยังอยู่ในลักษณะของการเก็งกำไรโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเป็น Selective Buy ใน 4 ธีมดังนี้
- หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไรไตรมาส 4/65 เติบโตแข็งแกร่งจากงวดเดียวกันของปีก่อน เลือก BBL, CPALL, BCP, AOT
- หุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการช่วยเหลือภาครัฐ อาทิ ประกันราคาข้าว เยียวยาน้ำท่วม เลือก HMPRO, GLOBAL , MAKRO
- หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (เริ่ม 20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ซึ่งคาดกระตุ้นบรรยากาศการบริโภคในช่วงเชียร์บอล เลือกCPALL, CENTEL, MINT
- หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเงินทุนไหลเข้า และ/หรือ บาทแข็งค่า เลือก BDMS, PTT, AAV, BA, GPSC
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำให้ เพิ่มความระมัดระวัง หรือ หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้
- หุ้นที่คาดถูกนำออกSET50 ซึ่งจะประกาศ16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ในครึ่งแรกปี 66 อาทิ BLA, IRPC, KCE, SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA)
- หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อในไตรมาส4/65
- หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง