MORE สายดาร์ค?

วานนี้ “โมนิก้า” รู้สึกผิดหวังกับการแถลงข่าวของ ตลท. เพราะแต่ละประเด็นที่ตอบคำถามสื่อมวลชน ไม่ได้ช่วยให้ผู้คนหายสงสัยเลยสักอย่าง ผนวกกับ “พี่ปุย” ก็วนเวียนกับคำพูดเดิม ๆ ที่ว่า “อยู่ระหว่างตรวจสอบ” จึงทำให้กระจอกข่าวและนักลงทุนเซ็งเป็ดไปตามกัน ขณะที่ “พี่โบ้” ก็ออกอาการแทงกั๊กคำตอบตลอดเวลา ซึ่งไม่สมราคาที่นั่งเป็นนายกโบรกเกอร์เลยคุณแม๊! ทั้งที่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของโบรกฯ เต็ม ๆ พะย่ะค่ะ

เนื่องจากสิ่งที่สังคมอยากรู้มากสุดคือ ออเดอร์ที่สาดหุ้นออกมาจำนวน 1.50 พันล้านหุ้น มันเป็นคำสั่งขายหุ้นของใคร? รวมทั้งประเด็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโบรกเกอร์อยู่ในระดับ 7-8 พันล้านบาท ก็ไม่ได้รับคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่คุณพี่ทั้งสองนั่งแถลงข่าวหน้าแฉล้มในเวลาครึ่งชั่วโมง มันทำให้สังคมวิตกจริตหนักกว่า เพราะคุณพี่ยืนยันแค่การเคลียร์บัญชีระหว่าง “โบรกฯ กับโบรกฯ” ยังดำเนินต่อไปตามปกติเจ้าค่ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเท้าความกลับไปที่ต้นตอของเรื่องอีกครั้ง และต้องพุ่งเป้าไปที่ “ปิงปอง” เป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยไปสำรวจพฤติกรรมของ “คิม” และค่อยไปดูการแก้ปัญหาของ “เฮียม้อ” จะออกมาในรูปไหน? ในขณะเดียวกันก็ต้องสำรวจระบบหลังบ้านของบรรดาโบรกเกอร์ที่ถูกพาดพิงว่า เขามีรูโหว่ตรงไหนที่ต้องรีบอุดเป็นการด่วน เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้นะจ๊ะ

สำหรับข่าวสารที่มีการเม้าท์แตกกันมากขึ้นเกี่ยวกับหุ้น MORE มันวิ่งกลับไปที่เรื่องคีย์ผิดเป็นประเด็นสำคัญ เพราะตรงนี้เป็นการย้ำหัวหมุดว่า ปิงปองมีส่วนได้เสียกับการขายไม้แรกอย่างแน่นอน และหุ้นอีกส่วนหนึ่งราว 800 ล้านหุ้นก็เม้าท์กันสนุกสนานว่า เป็นของฝั่งคนที่ชื่อ “คิม” เป็นคนสาดหุ้นออกมา เพราะรู้สึกไม่พอใจอะไรบางอย่าง “เฮียม้อ” ขึ้นมาอย่างเฉียบพลันไงล่ะคะ

ถามว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “ปิงปอง” กับ “คิม” เป็นอย่างไร? เขาว่ากันว่า ปิงปองเป็นลูกไล่ของคิม เพราะเป็นคนชักชวนให้เข้ามาถือหุ้น MORE พร้อมกับมีสัญญาปากเปล่าในเรื่องแบ็คดอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง และตั้งแต่นั้นราคาหุ้นก็ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างช้า ๆ ครั้นเวลาที่เคยคุยล่วงเลยเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายยังไม่มีอะไรขยับเป็นชิ้นเป็นอัน จึงไม่อยากร่วมทางเดินไปด้วยกัน และลงเอยด้วยการขายหุ้นทิ้งเพื่อจบปัญหาไงล่ะคะ

ส่วนฝั่งของ “เฮียม้อ” ก็เลยต้องวิ่งวุ่นกับการตอบคำถามสังคม พร้อมกับเดินสายเพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ขาย! และยังถือหุ้นครบตามที่ได้เคยลั่นวาจาตั้งแต่เข้ามาบริหารงานในวันแรก ซึ่งในวันนี้กำลังเร่งเจรจากับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เกิดความเสียหายน้อยสุดเท่าที่จะทำได้ และยินดีให้ ตลท. และ ก.ล.ต. เข้ามาตรวจสอบธุรกรรม เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นแพะรับบาปอีกต่อไปนะจะบอกให้

โมเมนตัมของเรื่องฉาวเลยเกิดการสวิงกลับไปยังที่โบรกเกอร์แบบเต็ม ๆ และมีข่าวแพร่งพรายออกมาในทำนองเรื่องการชอร์ตหุ้นผ่านบางโบรกเกอร์ไม่ปกติ และเรื่องนี้ก็สัมพันธ์โดยตรงกับเรื่องมาร์จิ้นที่กำลังเป็นเรื่องอื้อฉาวในเวลานี้ “โมนิก้า” ถึงมองว่า วันนี้โบรกเกอร์ต้องตอบเรื่องการอนุมัติวงเงินให้ได้เสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะมองเห็นภาพความเสียหายในครั้งนี้เกิดจากความโลภบังตาอ๊ะป่าว

จุดที่น่าสนใจคือ หุ้นอย่าง MORE เอามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเพิ่มมาร์จิ้นได้อย่างไร? ในเมื่อคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ไม่มีใครเชื่อว่า หุ้นประเภทนี้จะได้วงเงินค่อนข้างเยอะ! และเรื่องนี้เองที่ก่อให้เกิดกระแสข่าวเม้าท์ออกมาตอนบ่ายแก่ ๆ ว่า ตลท.ได้ส่งเรื่องให้กับสอบสวนกลางเข้ามาจัดการเรื่องนี้แบบเต็มตัว เพราะรู้สึกระแคะระคายอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับทุนสีเทาเจ้าค่ะ

ว่ากันว่า สอบสวนกลางมีหน้าที่เกี่ยวกับคดีอาญาโดยตรง “โมนิก้า” เลยมองว่า นี่คงเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องดูกันต่อไปว่า อีแอบที่อยู่ข้างหลังจะถูกฉีกหน้ากากเมื่อไหร่? เพราะคนในวงการพูดไปในทางเดียวกันว่า เที่ยวนี้มีบางคนยอมติดคุกอย่างแน่นอน แต่หลังจากพ้นคดีน่าจะมีเงินไม่ต่ำพันล้าน…ส่วนเรื่องนี้จะเป็นจริงเหมือนที่เม้าท์กันให้แซ่ดหรือเปล่า? คงต้องติดตามดูกันต่อไป เพราะเดี๊ยนก็ฟังเขามาอีกทีจ้า!