คัด 59 หุ้นกวาดกำไร Q3 โตกระโดดกว่า 1 เท่าตัว!
เปิดโผ 59 หุ้น โกยกำไรไตรมาส 3/65 โตกระฉูดกว่าเกิน 1 เท่าตัว ชู TRU-TKN-KSL-SABUY-SCN-LPN-ALLA-BEM-NOVA โตสนั่นกว่า 500% ขณะที่ BH-BANPU โบรกฯ คาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ออกมาควบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่า มีหลายบริษัทรายงานกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดเกิน 100% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ ได้แก่ TRU, TKN, KSL, SABUY, SCN, LPN, ALLA, BEM, NOVA, INSURE, CPH, NTV, DMT, BH, BANPU, CPW, SITHAI, PIN, BPP, Q-CON, GRAMMY, DELTA, TNL, SFP, TPBI, WP, PREB, TNR, NSL, NRF, J, KIAT, AMARIN, PTG, ILM, GUNKUL, AH, AMATAV, BJC, PTTEP, PRM, CPALL, QH, UVAN, PLUS, MODERN, SA, UPF, SNNP, TOG, PEACE, SUTHA, SISB, KDH, JMART, CK, SVT, SIRI และ SORKON
บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRU รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 131.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 964.54% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 12.32 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้รวมจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จากปัจจัยหนุนในการคลายล็อคดาวน์ และการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ
รวมทั้งมีรายได้จากการผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้ผลิตรถยนต์ ประกอบด้วยรายได้จากการรับจ้างผลิตชิ้นส่วน แม่พิมพ์ อุปกรณ์จับยึดจากกลุ่มลูกค้าเดิมมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ อีกทั้งรายได้จากการรับจ้างประกอบและรับจ้างอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์จากคำสั่งซื้อของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีปริมาณการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และมีโครงการใหม่เกิดขึ้น และรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์และรายได้ค่าบริการจากศูนย์บริการรถยนต์ด้วยความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 179.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 834.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.25 ล้านบาท เป็นผลมาจากการการเติบโตของยอดขายทั้งในช่องทางตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้การบริหารจัดการต้นทุนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง รวมถึงการจัดการค่าใช้จ่าย ต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพโดยรักษาต้นทุนในการจัดจำหน่ายเป็นสัดส่วนต่อยอดขายไม่เปลี่ยนแปลงมาก และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่คงที่ส่งผลให้สัดส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขายสูงขึ้น
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 518.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 827.43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 55.91 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลเพิ่มขึ้น อันมีเหตุจากทั้งปริมาณการขายน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นและราคาขายส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงรายได้จากปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และรายได้จากธุรกิจสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากปริมาณและราคาขายปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุหลักจากชาวไร่มีกิจกรรมเพิ่มผลผลิตอ้อยในฤดูการเพราะปลูกหน้า
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 500.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 793.22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 56.05 ล้านบาท เป็นผลหลักมาจากการรับรู้กำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในบริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 31 สิงหาคม ก่อนการนำเข้ารวมกับกลุ่มบริษัท และบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด
บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 21.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 792.64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.39 ล้านบาท เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ หันมาสนใจใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนมากขึ้น เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดและมีราคาถูกกว่า ส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติเติบโตโดดเด่นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) สถานี ก๊าซธรรมชาติหลัก ปั๊ม NGV รวมถึงธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 235.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 791.39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 26.46 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการอาคารชุดพักอาศัย รวมรับรู้รายได้จากโครงการสำนักงาน อีกทั้งเป็นโครงการบ้านพักอาศัยส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้เกิดการเช่าเพิ่มขึ้น และรายได้ค่าบริหารเพิ่มขึ้นจากการรับบริหารโครงการ งานบริการทางวิศวกรรม รวมถึงงานบริการอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น
บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 777.16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.63 ล้านบาท เป็นผลสืบเนื่องจากการปรับตัวของกลุ่มธุรกิจ ทำให้ภาพรวม การลงทุนของโครงการต่าง ๆ สามารถกลับมาดำเนินการตามแผนการที่กำหนดไว้ได้ตามปกติมากขึ้น รายได้จากการขายและบริการเพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มสูงขึ้นทั้งจากส่วนงานเครน และส่วนงานช่องโหลดสินค้า เนื่องจากการส่งมอบงานโครงการตามกำหนดการของลูกค้า นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยัง มีรายได้เพิ่มขึ้นจากส่วนงานธุรกิจใหม่ คือ ระบบโซลาร์เซลล์ ขณะเดียวกันรายได้จากการบริการหลังการขายเพิ่มขึ้นโดยเพิ่มสูงขึ้นทั้งจากส่วนงานเครนและส่วนงานช่องโหลดสินค้าจากงานบริการซ่อมพร้อมเปลี่ยนอะไหล่ งานสัญญาบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซม และงานบริการเคลื่อนย้ายโครงสร้าง
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 862.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 696.06% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 108.38 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณจราจรและปริมาณผู้โดยสาร ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น
บริษัท โนวา เอมไพร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOVA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 625.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.20 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนงาน ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการดำเนินธุรกิจตามปกติของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทตัวอื่นที่ผลประกอบการเติบโตแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ดังตารางประกอบ
ทั้งนี้นอกจากจะมีผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 เติบโตแข็งแกร่งแล้ว หลายบริษัททางนักวิเคราะห์ยังคงประเมินแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อ อาทิ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH โดยทางบล. ดาโอ ประเมินไว้ว่ามีมุมมองเป็นบวกต่อ outlook ของ BH มีปัจจัยสำคัญดังนี้ 1) ผู้บริหารมองว่า medical tourism ยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่ม Middle east และ Indochinaอีกทั้งทาง BH จะเน้นการเพิ่ม penetration rate ในตลาดใหม่ อาทิ ซาอุดิอาระเบีย ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% เท่านั้น
รวมทั้ง 2) บริษัทคงนโยบายลด การ discount ค่ารักษาเพื่อให้กลับคืนสู่ระดับ pre-covid ที่ 9.5% จาก 12.4% ณ ปัจจุบัน และ 3) มี การวางแผนปรับปรุงอาคาร ห้องพักและคลินิกต่างๆ และเปิดศูนย์ประสานงานที่ภูเก็ต ปัจจุบัน BH มี กำลังเตียงรองรับคนไข้ 478 เตียง อัตราการครองเตียง 80% และในไตรมาส 4 ปี 2565 จะมีเตียงเพิ่มอีก 65 เตียง
ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นอีก 26% เป็น 4,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 311% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2566 อยู่ที่ 5,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัย pent-up demand รวมถึงการเปิดห้องพักเพิ่มเพื่อรองรับผู้ป่วย และนโยบายการลด discount ค่ารักษาลง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 265 บาท
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยทางบล. ดาโอ ประเมินไว้ว่าเชื่อว่าราคาขายเฉลี่ย (ASP) ถ่านหินและราคาขายเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติได้ผ่าน จุดสูงสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 3 ปี 2565 แต่เชื่อว่าจะยังคงเห็นการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนก่อนที่โดดเด่นของทั้ง coal ASP และ gas ASP ในไตรมาส 4 ปี 2565 ในขณะเดียวกันประเมินว่าบริษัทจะมีจะมีผลขาดทุนจากเครื่องมือทาง การเงิน (hedging loss) ที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4 ปี 2565 ตามแนวโน้ม gas ASP ที่ลดลงจากจากต้นปีถึงไตรมาสก่อนหน้า และจากการที่บริษัทไม่มีการเข้าทำสัญญาประกันความเสี่ยงถ่านหินแล้ว
นอกจากนี้ ด้วยเงินสดในมือที่สูงขึ้น บริษัทเปิดเผยว่า มีแผนที่จะลดหนี้ในระดับบริษัทแม่ให้น้อยลง และพร้อมที่จะท าแผนควบรวมกิจการ (M&A) ในธุรกิจสีเขียวอยู่ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 4.99 หมื่นล้านบาท และประเมินในปี 2566 อยู่ที่ 3.22 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่ากำไรจะสูงขึ้น 407% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2565 จาก 1) coal ASP และ gas ASP ที่สูงขึ้น 2) ปริมาณขายก๊าซฯที่ดีขึ้น และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (equity income) ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่คาดว่ากำไรจะลดลง 35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2566 ตามแนวโน้ม coal ASP และ gas ASP ที่เริ่มปรับตัวสู่ระดับปกติและ equity income ที่ต่ำลงจากธุรกิจถ่านหินในจีน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 17.50 บาท