ฝ่าด่าน 1,650 จุดไม่ได้!
นับว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยา 1,650 จุดไปได้สักทีช่วงระยะสั้นนี้ ถือเป็นกำแพงขวางกั้นที่แน่นหนามาก
นับว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยา 1,650 จุดไปได้สักทีช่วงระยะสั้นนี้ ถือเป็นกำแพงขวางกั้นที่แน่นหนามาก ทำเอา “โมนิก้า” เหนื่อยแทนแฟนคลับของเดี๊ยนจริง ๆ เพราะขึ้นไปแตะก็มักโดนเทขายออกมาทุกทีแม่เจ้าโว้ยเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ทำให้ล่าสุด SET ลงมาปิดที่ระดับ 1,641.63 จุด ลบไป 6.81 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.38 หมื่นล้านบาท ความหวังก็จบลงไปอีกรอบเจ้าค่ะ
นี่แหละพฤติกรรมของคุณตลาดช่วงนี้ ถ้าให้ “โมนิก้า” อ่านเกมต่อกว่าจะสิ้นปี 65 ดัชนีคงเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบแคบ ๆ พร้อมกับวอลุ่มเบาบางต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยังคงมีเรื่องต้องติดตามโดยเฉพาะเริ่มกลับมากังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. หดตัวลง ประกอบกับจับตาเรื่องการเมืองในประเทศ และเรื่องเก็บภาษีขายหุ้นที่ทุกปากพูดเสียงเดียวว่าฆ่าแมงเม่าตรง ๆ เลยจ้า
งานนี้ “โมนิก้า” ไม่ต้องการชักใบให้เรือเสีย หรือพยายามข่มขู่ให้นักเล่นหวาดกลัว แต่สิ่งที่เม้าท์ให้ฟังคือเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ซึ่งหลายคนรับรู้ว่าการเล่นหุ้นเริ่มเหนื่อยเข้าทุกวัน ขนาดเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่พลังงานอย่าง PTT ยังมีอาการเมาหมัดไม่หายเสียที ทำท่าทีจะฟื้น ๆ สุดท้ายยังคงตั้งลำบริเวณแนวรับสำคัญอยู่ราคาลงมาปิดที่ 33 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลบไป 0.75% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 939 ล้านบาท ทำให้ผู้ถือหุ้นท้อใจว่าเมื่อไรจะวิ่งสักทีเจ้าค่ะ มันอธิบายไม่ถูกเลยนะเนี่ย
ส่วนทางด้าน YGG โดนชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง รอบนี้ลากราคาขึ้นไปปิดที่ 8.90 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 10.56% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 102 ล้านบาท กลับมาสะท้อนโปรเจกต์ใหม่ ของบริษัทฯ ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง พร้อมกับศักยภาพธุรกิจเกมจริงจังตอบโจทย์ผู้เล่น “โมนิก้า” เชื่อว่ายังคงสะท้อนรายได้ที่สามารถเติบโตตามเป้าหมาย 15-20% ในปีนี้เป็นแน่ เอาเป็นว่าแนวต้านถัดไป 9.10 บาท จะทดสอบได้มั้ยจ๊ะ
นับว่าเป็นอีกหุ้นที่น่าจับตา JWD เชื่อว่าบอร์ดไฟเขียวควบรวมกิจการกับ SCGL แน่นอนไม่เกินไตรมาส 1/66 ผนวกท้ายปีคือช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ “โมนิก้า” มั่นใจจะเห็นการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วนยังมีกำลังเสริมโดยมีอัพไซด์จากเวียดนามเข้ามาหนุนอีก ท่าทางผลการดำเนินงานไตรมาส 4 นิวไฮเห็น ๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งแรงขึ้นมาปิดที่ 22 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.32% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 392 ล้านบาท ส่วนวันนี้ยังจะแรงต่ออีกไหม? ต้องติดตามดูกันต่อไปเจ้าค่ะ
เช่นเดียวกับกรณีของ RBF หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ล่าสุดราคาเด้งขึ้นอีกครั้งมาปิดที่ระดับ 13.30 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 7.26% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 193 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่ามีโอกาสทะลุแนวต้าน 13.30 บาท หากผ่านได้ก็อาจเห็น 14 บาทเป็นต้านถัดไปในช่วงระยะสั้น หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาส 4/65 จะกลับมาเติบโตแกร่ง ตามผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารที่ขายดีมากขึ้น รับปัจจัยบวกการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเข้ามาเจ้าค่ะ
แรงจุงเบยสำหรับ SVI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากผู้บริหารส่งซิกเป้ารายได้ปี 66 แตะ 3 หมื่นล้านบาท ตามการเติบโตของลูกค้าภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายไร้สาย ล้วนเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ราคาหุ้นก็วิ่งระเบิดระเบ้อ จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 11.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือบวกไป 2.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 645 ล้านบาท พร้อมกับทำออลไทม์ไฮ “โมนิก้า” ถือว่ายังเป็นหุ้นน่าลงทุน แต่ก็ควรระวังในระยะสั้นอาจถูกขายทำกำไรเจ้าค่ะ
ปิดท้ายกันที่ AURA ช่างออร่าสมชื่อแรงต่อเนื่อง หลังเข้าเทรดตลาดรองไม่นานนัก โดยราคาปรับตัวขึ้นไปที่ 14.90 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าราคายังคงไปได้ไกลด้วยผลประกอบการที่เติบโตแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นยอดขายสินค้า รวมถึงดอกเบี้ยรับจากธุรกิจขายฝากนับว่าสวยหรู นี่เป็นอีกตัวที่จะทำให้นักลงทุนแฮปปี้กันอย่างถ้วนหน้าเจ้าค่ะ