โบรกคัด 13 หุ้น รับ “เศรษฐกิจ-เลือกตั้ง-ดอกเบี้ย” ในประเทศหนุน

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (13 ธ.ค. 65) คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,618-1,615 จุด และแนวต้านที่บริเวณ 1,630-1,640 จุด โดยคาดตลาดจะแกว่งตัวผันผวนเพื่อรอดู 1.) การรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย. ของสหรัฐในคืนนี้ คาดจะออกมาที่ระดับ เพิ่มขึ้น 7.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือน ต.ค. ที่ระดับ เพิ่มขึ้น 7.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและชะลอตัวลงต่อเนื่อง

รวมถึง 2.) ติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้เพื่อประเมินทิศทางแนวโน้มนโยบายทางการเงินของเฟดในช่วงปีหน้า ผ่าน Dot-Plot หากไม่มีการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคาดตลาดจะเริ่มผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวและหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป โดยยังคงคาดการณ์เดิมว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ที่ระดับ 0.50% และจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้าจนอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ราว 5-5.25% ก่อนที่เฟดอาจหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 65 จากผลกระทบของดอกเบี้ยสหรัฐที่ส่งผ่านมาถึงเศรษฐกิจ คาดจะส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป

ส่วนทางด้านสัญญาน้ามันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นบ้างปิดที่ระดับ 73.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.28 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 3.21%) ตามความกังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปิดท่องส่งน้ามัน Keystone ของแคนนาดาอาจจะล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ ลดทอนอุปทานน้ามันดิบในสหรัฐอีกทั้ง ปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นารัสเซีย ออกมาส่งสัญญาณปรับลดกาลังการผลิตน้ามันและไม่ขายน้ามันให้กับชาติตะวันตกหากมีการบังคับใช้มาตรการกาหนดเพดานน้ามันรัสเซีย คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ขึ้นได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยในประเทศยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย. ออกมาเพิ่มขึ้น 5.55% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าที่ตลาดคาด เพิ่มขึ้น 5.80% บ่งชี้ความสามารถในการรับมือเงินเฟ้อของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงเดือน ส.ค. คาดจะกระตุ้นกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าได้ต่อ อีกทั้งคาดภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่องจากแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและบริโภคของภาคเอกชน และคาดเศรษฐกิจไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่มีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

ขณะที่การเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 66 มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ โดยยังคงชอบหนุนต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL, CRC, MAKRO และ BJC

ทั้งนี้คาดครม. อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี รวมทั้งยังชอบหุ้นในกลุ่มโฆษณา ได้แก่ PLANB และ VGI ที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/65 คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ

นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มบริการสถานีน้ำมันได้แก่ BCP, OR และ PTG คาดจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้อีกครั้ง ตามการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ หนุนการเดินทางมากขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มดังกล่าว

ขณะที่เริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยตอบรับผลการประชุม กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร ได้แก่ KBANK, BBL, SCB และ KTB