GULF ต่อยอดอินฟราฯ

ระหว่างที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รอชิงเค้กขายไฟฟ้า 5,203 เมกะวัตต์ ให้กับภาครัฐ ซึ่งตามไทม์ไลน์ช่วงต้นปีหน้าก็จะรู้กันว่าจะคว้าไปได้กี่เมกะวัตต์ ตัวเต็งก็หนีไม่พ้น GULF นั่นแหละ..!!

อ้อ…ในระหว่างนี้ GULF น่าจะปิดดีลซื้อบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM จากบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH มูลค่า 4,472 ล้านบาท ได้ก่อนสิ้นปีนี้นะ (INTUCH เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 ธ.ค.นี้) หลังจากนั้นก็คงว่าด้วยเรื่องการส่ง THCOM ไปประมูลดาวเทียมวงโคจรต่าง ๆ…

ส่วนดีลส่งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ไปซื้อ 3BB และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ก็น่าจะสะดวกโยธิน รอแค่สัญญาณไฟเขียวจากกสทช.เท่านั้น

แต่ระหว่างรอเรื่องเหล่านี้ ยังมีอีกเรื่องที่ GULF ดำเนินการมาตลอด นั่นคือเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ด้านการขนส่ง หรือโลจิสติกส์ หลังจากล่าสุดทุ่มเงินลงทุนกว่า 2,059 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด (TTT) สัดส่วน 28.57%

โดย TTT มีสัญญาร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในโครงการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อขนถ่ายสินค้าเหลวในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นระยะเวลา 30 ปี โดย TTT มีหน้าที่บริหารและบำรุงรักษาท่าเทียบเรือและคลังเก็บสินค้าเหลว เพื่อให้บริการท่าเทียบเรือสาธารณะในการขนถ่ายและกักเก็บสินค้าเหลวแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมทั่วไป

ปัจจุบัน TTT มีท่าเทียบเรือ 4 ท่า ซึ่งสามารถรองรับเรือขนถ่ายได้จำนวน 1,000 ลำต่อปี และมีถังเก็บสินค้าเหลวที่มีปริมาณความจุรวมกว่า 722,800 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อขนถ่ายสินค้าเหลวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

สิ่งที่น่าสนใจ ยังจำได้มั้ย…จำได้หรือเปล่า ว่าก่อนหน้านี้ GULF ก็เคยลงทุนอินฟราฯ ด้านการขนส่งมาแล้ว ด้วยการร่วมกับกลุ่มปตท. ลงทุนท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และท่าเรือแหลมฉบัง…

ดังนั้น การเข้าลงทุนใน TTT ครั้งนี้ ก็ถือเป็นการต่อยอดอินฟราฯ ด้านการขนส่งให้ครบวงจร กลายเป็นวันสต๊อปเซอร์วิสด้านการขนส่ง..!!

เท่ากับว่า ต่อไปไม่ว่าก๊าซหรือของเหลวจะถูกส่งมาจากไหน แต่เมื่อเทียบท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ก็มี TTT เป็นผู้ให้บริการขนส่งไปยังโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ…

ในส่วนของ GULF ก็จะได้ 2 ขาด้วยกัน…ขาแรก จากการบริหารท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบังที่เพิ่มขึ้น

ส่วนอีกขา เป็นการรับรู้เงินลงทุนจาก TTT ตามสัดส่วนการถือหุ้น…

แล้วที่สำคัญ TTT มีรายได้อยู่แล้ว นั่นหมายความว่า ลงทุนปุ๊บ…รีเทิร์นกลับมาปั๊บ (ไม่ต้องรอให้เมื่อยตุ้ม)

เบื้องต้น GULF จะเริ่มบุ๊กกำไรตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยในปี 2566 จะบุ๊กเต็มปี คาดจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี

โอเค…แม้ตัวเลขกำไร 300 ล้านบาทต่อปี อาจดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับกำไรของ GULF ที่ปีหนึ่ง ๆ เฉลี่ยราว 6,000-7,000 ล้านบาทต่อปี แต่ TTT ก็ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวเลยนะ

แหม๊…“เสี่ยกลาง”-สารัชถ์ รัตนาวะดี คงตีลังกาคิดมาแล้วว่า การเข้าลงทุนใน TTT คุ้มค่าแค่ไหน..!? เชื่อหัวไอ้เรืองสิ

ว่าแต่ GULF กะรวบทุกอย่างเลยเหรอ.!? เพราะอินฟราฯ ด้านไฟฟ้าก็เอา อินฟราฯ ด้านสื่อสารและโทรคมนาคมก็มี ส่วนอินฟราฯ ด้านคมนาคม ก็มีงาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทางนะ (สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ระยะทาง 196 กม. และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ระยะทาง 96 กม.) แล้วนี่มารวบอินฟราฯ ด้านการขนส่งอีก…

ต้องบอกว่า “เสี่ยกลาง” ไม่ธรรมดาจริง ๆ พับผ่าสิ..!!

…อิ อิ อิ…