ตั้งทรง..เล่นต่อ

ทันทีที่สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนกับที่เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน ก็ทำให้เดี๊ยนต้องหันมามองหุ้นรายตัวที่กำลังอยู่ในโหมด “ตั้งทรงสวย” เป็นลำดับแรก


ทันทีที่สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนกับที่เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน ก็ทำให้เดี๊ยนต้องหันมามองหุ้นรายตัวที่กำลังอยู่ในโหมด “ตั้งทรงสวย” เป็นลำดับแรก เพราะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นลำดับแรก ๆ ในการเล่นรอบ “โมนิก้า” ถึงพยายามไล่สตอรี่ของหุ้นแต่ละตัวให้ลึกกว่าเดิม หลังแรงซื้อเริ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนราคาหุ้นมีทิศทางที่ทำให้เชื่อว่า น่าจะปรับตัวขึ้นอีกในไม่ช้าแบบนี้..ลุยเลยสิพี่!

วันนี้เลยไม่ต้องกังวลกับการแกว่งตัวไปมาของดัชนี เพราะภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกมันต้องออกมาในรูปนี้อยู่แล้ว ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 1,625.91 จุด บวกไป 2.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.50 หมื่นล้านบาท คือโอกาสของการเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอย “โมนิก้า” ถึงแบ่งหุ้นออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้เข้ากับความชอบของแต่ละบุคคล เพราะเดี๊ยนแค่ทำหน้าที่บอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้แฟนคลับรู้เท่านั้นจ้า!

โดยเฉพาะในรายของหุ้นน้องใหม่ SGC ก็กลายเป็นเกมที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับตัวอีฉัน เพราะราคาเปิดที่ระดับ 4.06 บาท เทียบกับราคาไอพีโอที่ระดับ 3.90 บาท ทำให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างสบายใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนขึ้นไปปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 28.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.65 พันล้านบาท ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจขึ้นเป็นกองเมื่อเทียบกับราคาเป้าที่เขาให้กันไว้ที่ 6.20 บาทนะนายจ๋า!

เช่นเดียวกับในรายของ ITC ก็มีมุมที่น่าสนใจอยู่เรื่องโตต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ผสานกับมีเรื่องราคาเป้าอยู่ที่ระดับ 45 บาทเป็นตัวบิ้วอารมณ์ จึงกลายเป็นเกมยาวที่น่าติดตามดูมากสุดตัวหนึ่ง เพราะทุกคนก็เห็นกันเต็มตาว่า นี่เป็นบริษัทต้น ๆ ของเอเชีย และยังติดในท็อปเทนของโลก ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 32.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท มีแก๊ปให้เล่นเกิน 30% นะจะบอกให้

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะมองไปยังหุ้น BBL เพื่อชี้ให้เห็นโมเมนตัมเศรษฐกิจเมื่อเริ่มกลับมาอีกครั้ง แบงก์รายนี้จะเป็นคนที่ได้รับประโยชน์เป็นเจ้าแรก ๆ เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่จะมีการขอสินเชื่อก้อนโตเพื่อขยายงานในอนาคต เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดของราคาหุ้นที่ระดับ 144.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 614 ล้านบาท น่าจะเป็นแรงส่งให้หุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 150 บาทอีกรอบกระมัง!

ในเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นเป็นรูปธรรม และยังมีแรงหนุนจากเม็ดเงินในระบบสะพัดขึ้น “โมนิก้า” ก็ต้องหันมามองที่หุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง AWC กันอีกครั้ง เพราะเมื่อดูไทม์ไลน์ของราคาหุ้นที่ไต่เพดนสูงขึ้นเรื่อย ๆ มันสัมพันธ์กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับช่วงนี้เป็นไฮซีซั่นพอดี จึงเชื่อว่าการขึ้นมาปิดที่ 6.25 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 301 ล้านบาท คือการเตรียมตัวยกฐานให้สูงขึ้นเจ้าค่ะ

ส่วนพวกสายซิ่งที่ชอบตะลุยไม่ยั้ง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TEAM เพื่อชี้ให้เห็นการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.10 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 520 ล้าบาท มันเป็นเกมที่เล่นกับอนาคตล้วน ๆ แถมการดันหุ้นในแต่ละเที่ยวก็ใส่ไม่ยั้งเสียด้วย ผนวกกับหุ้นยังเทรดบน PE 20 เท่า จึงกลายเป็นตัวตึงที่น่าตามไปดูทุกช็อต แต่ก็พึงสังวรณ์ไว้ด้วยว่า เจ้ามือเลิกเล่นได้ทุกเมื่อค่ะ

โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดสุดก็คือการไหลลงไม่หยุดของหุ้นขายยา IP ทั้งที่ในปี 63 ถูกขนานนามให้เป็นหุ้นที่มาแรงสุดแห่งปี เพราะกำไรมีแนวโน้มโตกระฉูด แต่ในปี 64 กลับเกิดอาการเครื่องตื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น ราคาหุ้นก็แกว่งตัวแคบ ๆ ตลอดทั้งปี พอถึงปี 65 ก็มีข่าวหยุดโตออกมาเป็นระลอก ราคาหุ้นก็เลยทรุดฮวบจากราคาไฮแถว 22 บาท จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ 13.60 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42 ล้นบาท มันหมายความว่า จบแล้วใช่ไหมนาย!

ตรงกันข้ามกับในรายของ YONG อย่างสิ้นเชิง! เพราะรายนี้กำลังตั้งลำเพื่อทะยานขึ้นรับผลงานที่มีแนวโน้มดีขึ้น วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.22 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 89 ล้านบาท ผนวกกับราคาที่เทรดไม่สูงเมื่อเทียบกับ PE 17 เท่า “โมนิก้า” ถึงมองเป็นเกมที่นักเล่นต้องไปคิดเป็นการบ้านว่า ไตรมาส 4 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างมาดีขนาดไหน? และที่ว่ากันว่า ปีหน้าจะทำผลงานดีกว่าปีนี้..จริงไหม? เพราะนั้นคือคำตอบที่จะทำให้หุ้นไปต่อพะย่ะค่ะ

Back to top button