CHAME ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 36.98 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์
“ชาเม่ คอร์ปอเรชั่น” หรือ CHAME ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 36.98 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai พร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งด้านการวิจัยและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เพื่อผลักดัน CHAME ก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
นางสาวนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาเม่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CHAME เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Beautify Your Charm Shine” ให้ทุกคนสามารถมีรูปร่างและผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของผู้บริหารที่มีในธุรกิจมากว่า 12 ปี ในการดำเนินธุรกิจพัฒนา และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงสุขภาพ (Food Supplements and Nutraceutical) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetics) และสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้เครื่องหมายการค้า CHAMÉ และ De CHARM ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ได้แก่ ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้ง การค้าปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) การค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทางขายออนไลน์ e-Commerce ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค
ทั้งนี้ CHAME มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ (1) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food Supplement) อาหารเสริมที่ให้สรรพคุณต่างๆ โดยมีหลายรูปแบบและผลิตจากวัตถุดิบที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1.1) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงผิว (Beauty Supplement) อาหารเสริมที่มีสรรพคุณบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี ภายใต้ผลิตภัณฑ์ CHAMÉ Collagen Plus, CHAMÉ Vita Plus C, CHAMÉ Gen Me และ CHAMÉ Mela Klear เป็นต้น 1.2) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลรูปร่าง (Weight Management Supplement) อาหารเสริมที่มีสรรพคุณสำหรับดูแลรูปร่าง ภายใต้ผลิตภัณฑ์ CHAMÉ Sye S, CHAMÉ Sye S Plus เป็นต้น 1.3) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ (Health Supplement) อาหารเสริมที่มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ CHAMÉ Krystal Collagen, CHAMÉ 1 Day Fiber, CHAMÉ V-Col และ CHAMÉ Probiotic เป็นต้น (2) ผลิตภัณฑ์กาแฟและโกโก้ฟังก์ชันนัล (Functional Coffee and Cocoa) ภายใต้ผลิตภัณฑ์ CHAMÉ Sye Coffee, CHAMÉ Sye Cocoa เป็นต้น
(3) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetic) ภายใต้ผลิตภัณฑ์ Advanced Youth series ประกอบด้วย Skin Booster, Intense Serum, Facial Treatment Gentle Foam, Restoring Night Cream และกลุ่มเครื่องสำอาง ภายใต้ผลิตภัณฑ์ De CHARM Everlasting All Day Perfect Skin series เป็นต้น และ (4) ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย (Personal Care) ภายใต้ผลิตภัณฑ์ CHAMÉ Sanitizer Hand Spray, CHAMÉ Alcohol Moisturizing Hand Gel เป็นต้น
โดยบริษัทฯ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในการพัฒนาและมอบผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพที่ลูกค้าไว้วางใจในระดับสากล ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบสุขภาพและความงามแบบองค์รวมอย่างยั่งยืนสำหรับทุกคน” ด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นการวิจัยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์และผู้บริโภคเป็นสำคัญ ตลอดจนการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากทั่วโลก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางคุณภาพสูง เอกสิทธิ์เฉพาะ CHAMÉ ที่ช่วยดูแลเสริมสร้างกระบวนการฟื้นฟูความสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ประสิทธิผลและความปลอดภัย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ที่สามารถตอบสนองความต้องการและรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการและรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผ่านการศึกษาแนวโน้มตลาดและสำรวจความต้องการของลูกค้า และนำมาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งได้แสวงหาเทคโนโลยี นวัตกรรมและสิทธิบัตรนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่างของสินค้าในท้องตลาด โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามสนธิสัญญา (MOU) ความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และการทดสอบประสิทธิภาพในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (“วว.”) เพื่อคิดค้นและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“จุดเริ่มต้นของ CHAME เกิดขึ้นมาจากความใส่ใจในการดูแลบำรุงผิวพรรณ จึงได้ศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงามและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2555 ได้เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงผิว คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนชนิดผง CHAMÉ Collagen และได้ต่อยอดธุรกิจโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่สำหรับดูแลรูปร่าง คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนักชนิดผงกรอกปาก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์ กาแฟควบคุมน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนในรูปแบบซอง ตลอดจนการขยายไปยังผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ผลิตภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์ เป็นต้น ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายเพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอ ให้ครอบคลุมตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป” นางสาวนันท์ฐณิชา กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 บมจ. ชาเม่ คอร์ปอเรชั่น หรือ CHAME ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยปัจจุบัน CHAME มีทุนจดทะเบียน 68.49 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 136.98 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 50 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 100 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 36.98 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการลงทุนสร้างศักยภาพและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ด้านการตลาด และการขายรองรับในการแข่งขันระยะยาว รวมถึงการลงทุนหรือร่วมทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท โดยปัจจุบันโครงสร้างการถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท ซีเอ็มไอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 34.93% ภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 25.50% นางสาวนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ถือหุ้น 58.36% ภายหลัง IPO จะลดเหลือ 42.60% นางสาวสุจิตร์ตรา สาคระพันธ์ ถือหุ้น 6.71% ภายหลัง IPO จะลดเหลือ 4.90% อย่างไรก็ตาม ภายหลัง IPO บริษัทจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่มครอบครัวของนางสาวนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทและถือหุ้นรวมร้อยละ 68.1