รอดหวุดหวิด?
แรงซื้อที่เข้ามาพยุงดัชนีตั้งแต่เปิดเทรดกลายเป็นนาทีชีวิตที่พลิกชะตาตลาดหุ้นไทยได้อย่างฉิวเฉียด เพราะการต่ออายุยืนเหนือระดับดังกล่าวได้เพียงแค่หนึ่งวัน
แรงซื้อที่เข้ามาพยุงดัชนีตั้งแต่เปิดเทรดกลายเป็นนาทีชีวิตที่พลิกชะตาตลาดหุ้นไทยได้อย่างฉิวเฉียด เพราะการต่ออายุยืนเหนือระดับดังกล่าวได้เพียงแค่หนึ่งวัน ถือเป็นการเปลี่ยนโมเมนตัมการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้หัวใจของพวกขาลุยพองโตขึ้นมาทันที “โมนิก้า” ถึงภาวนาให้ดัชนียืนเหนือระดับดังกล่าวได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะการเล่นเที่ยวนี้มันมีความหมายมากกว่าครั้งก่อน ๆ พะย่ะค่ะ
โดยเฉพาะประเด็นเม้าท์มอยถึงผลกระทบที่เกิดจากการทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับจิตวิทยา 1,600 จุด ทำให้ผู้รู้หลายรายพูดถึงแรงกระแทกมหาศาลที่จะตามมาเป็นระลอก แต่เผอิญดัชนีสามารถยืนปิดที่ระดับ 1,609.94 จุด บวกไป 5.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.08 หมื่นล้านบาทได้เสียก่อน จึงทำให้ทุกอย่างยังอยู่ในสมดุลที่ควรจะเป็น และกลายเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นต่อในวันนี้ไงล่ะตัวเอง!
งานนี้ถือเป็นเกมที่นักเล่นต้องจับทางให้ออกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ตลาดหุ้นไทยอยู่ในทิศทางขาลงลูกเดียว ทั้งที่เดือนนี้น่าจะเป็นเดือนของการ “ตั้งฐาน” เพื่อปูทางให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,650 จุดอย่างแข็งแกร่ง “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการหวาดผวาทุกครั้งที่เห็นตลาดหุ้นต่างประเทศร่วงลงหนัก เพราะเป็นตัวแปรหลักที่ฉุดรั้งการขึ้นของดัชนี และทั้งหมดก็มาจากเรื่อง “ขึ้นดอกเบี้ย” เพื่อสกัดปัญหา “เงินเฟ้อ” น่ะซี
ในเมื่อมีความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนัก ย่อมมีเรื่องหนี้เสียตามมาอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นลีสซิ่งโดนถล่มเรียงตัว และวานนี้ก็เป็นคิวของ SAWAD ที่หุ้นโดนรินออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 46.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท พร้อมกับทำท่าจะไหลลงต่อโดยไม่มีกำหนดแบบนี้.. “เก็บคอ งอเข่า” ดีที่สุดนะจ๊ะ
คล้ายกับกรณีของหุ้นป้ายโฆษณา VGI ก็มีลักษณะม้วนตัวลงมาปิดที่ระดับ 4.16 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 162 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลไม่ใช่น้อยสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ต เพราะราคาหุ้นอยู่ในทิศทางปักหัวลงลูกเดียว ผนวกกับบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อให้ลุยแบบไม่ยั้ง จึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักสำหรับคนที่คิดจะสวมวิญญาณชาวสวนเจ้าค่ะ
ขนาดหุ้นน้องใหม่ที่ว่า เจ๋งเป้ง! และทุกคนเข้ามาเล่นได้สบายใจ กลับมีมือดีกระหน่ำขายออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายทำให้ราคาหุ้น SM ลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 1.96 บาท ลบไป 0.24 บาท หรือลงไป 10.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 409 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นต้องถอยฉากโดยด่วน เพราะการอ่อนตัวลงเที่ยวนี้เกี่ยวข้องกับบรรยากาศตลาดหุ้น จึงมีโอกาสเห็นหุ้นไหลลงอีกจ้า!
ส่วนรายที่มีลุ้นฟื้นตัวรอบใหม่อย่าง STGT ถือเป็นช็อตที่น่าคิดเหมือนกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 9.30 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 179 ล้านบาท ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์มอยมากสุดเช่นกัน เพราะการขึ้นเที่ยวนี้อาจหมายถึงการกลับทิศอย่างบูรณาการ แถมเมื่อดูจากมูลค่าทางบัญชีที่ระดับ 13 บาท ก็ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจขึ้นมาอีกครั้ง (ทุกครั้งเด้งแล้วลงเป็นประจำ) นะคะ
เช่นเดียวกับในรายของ SABUY ที่เด้งขึ้นมาปิดในระดับ 11.40 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 10.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 413 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ต้องดูยาว ๆ เพราะยังมีสตอรี่ใหม่ ๆ เข้ามาบิ้วอารมณ์เนือง ๆ แถมพรายกระซิบแอบเม้าท์ให้ฟังว่า เร็ว ๆ นี้จะมีข่าวดีชิ้นใหม่ออกมาให้ยลโฉมอย่างเป็นทางการ เดี๊ยนจึงอยากให้ขาลุยประเมินกันอีกครั้งว่า นี่เป็นจุดที่น่าเสี่ยงดูสักตั้งไหมเอ่ย?
ส่วนนักเล่นประเภท “เจ็บไม่จำ” คงต้องมองไปที่พ่อดอกมะลิ JAS เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.14 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาท อาจเป็นเพียงแค่การ “เด้งแล้วลง” เพราะที่ผ่านมาก็ใช้ไม้นี้เป็นประจำ จึงทำให้หลายคนเข็ดขยาดกับการกระทำแบบนี้ “โมนิก้า” จึงไม่อยากจะเม้าท์อะไรมากมาย เพราะหุ้นตัวนี้ทำแฟนคลับเจ็บมาเยอะน่ะซี