SET เสี่ยงลง-วิตกรัสเซียโต้กลับตุรกีเก็บ 11 หุ้นเน้นกลุ่ม mid cap เทคนิคสวย

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.10 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.69 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็หันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบของรัสเซียถูกกองทัพตุรกียิงตกบริเวณชายแดนซีเรีย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากยังมีความวิตกกังวลต่อจากวานนี้มีแรงกดดันจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ตุรกีโดยวันนี้รัสเซียยังส่งเรือรบเข้าช่องแคบดาร์ดาเนลส์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี หลังตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียก่อน โดยสถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ ระยะสั้นให้แนวต้าน 1,395 จุด

หุ้นเด่นเลือก BAY, BDMS, GLOBAL, IFEC, ASK, SCC, TPIPL, KBANK, TISCO, BCP และ GL

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า คาดดัชนีวันนี้เด้งสั้นก่อนไซด์เวย์ ทั้งนี้หุ้นน้ำมันอาจขึ้นได้บางหลังเหตุในซีเรียผนวกแรงเก็งกำไรก่อประชุมกลุ่มโอเปกต้นเดือนธ.ค.ดันราคาน้ำมันรีบาวด์ 1.5% อย่าไรก็ตามดัชนีช่วงสั้นมีอัพไซด์จำกัด เพราะไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ และนักลงทุนรอดูปัจจัยต้นเดือนหน้า ภาพรวมคงเน้นเก็งกำไรหุ้น mid cap เนื่องจากดัชนี ยังมีทิศทางแกว่งตัวอยู่

วันนี้ เก็งกำไร GLOBAL,IFEC,ASK

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า SET ตอบรับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ตุรกี ไปแล้วตั้งแต่ก่อนปิดตลาดวานนี้ ทำให้การปรับลดลงของตลาดหุ้นภูมิภาคช่วงเช้าวันนี้จะมีผลกระทบต่อ SET จำกัด ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น +US$1.29/bbl, คาดการณ์ ECB กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุม 3 ธ.ค.นี้ จะเป็นปัจจัยหนุน Technical Rebound ระยะสั้นแนวต้าน 1,395 จุด

เทียบกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในปี 2014 จะเห็นว่าส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลก และ SET ไม่มากนัก ทำให้ยังแนะนำกลยทธ์ลงทุน “Selective” ต่อไป:-

          1. วัสดุก่อสร้าง: SCC TPIPL  เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนุนยอดขายปูนซิเมนต์

          2. กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่: เริ่มมีสัญญาณ Sector Rotation มาที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ทีมี Valuation ถูก PE 8-9x อย่าง KBANK

          3. เก็งกำไรยอดขายรถงาน Motor Expo ธ.ค.นี้: TISCO

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า ความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นต่อเหตุการณ์ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกมองเป็นเพียงระยะสั้นๆ เมื่อดูจากการตอบสนองของตลาดหุ้นรัสเชียและตุรกีเมื่อวานนี้ปรากฏว่าลดลง 3% และ 4%

ส่วนในตลาดหุ้นไทย เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นตลาดแรกๆ ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก แทบจะไม่ลง ดังนั้นวันนี้คาดดัชนี จะดีดตัวกลับ ซึ่งนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน หากสถานการณ์เกิดบานปลายไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้เป็นตัวต้านการลงของดัชนีหุ้นไทย เปิดขึ้นมาวันนี้ตลาดทั่วโลกคงยังอยู่ในภาวะผันผวน แต่จะไม่รุนแรง จากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา หากดูเฉพาะตลาดหุ้นไทย จะพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้น PTTEP กับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ให้ค่าสหสัมพันธ์ สูงถึง 0.9 สะท้อนให้เห็นราคาหุ้นวิ่งตามราคาน้ำมันทั้งในเชิงบวกและลบ ดังนั้นในช่วงนี้หุ้น PTTEP ยังเก็งกำไรช่วงสั้นๆได้ คาดวันนี้ดัชนีเกิดขึ้นมา น่าจะยังมีแรงกดให้ลงไปอยู่ในแดนลบ แต่สุดท้ายจะมีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเสริม จนดัชนีจะขึ้นไปยืนในแดนบวก วันนี้มองแนวรับที่ 1380-1375 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1392-1396 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCP และ GL

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) วานนี้ตลาดหุ้นไทยรับผลกระทบจากแรงขายหุ้นในกลุ่มสื่อสาร หลังวิตกกังวลต่อเงินลงทุนและภาวะการแข่งขันที่แรงรุนอาจจะกระทบกำไรในอนาคต ขณะที่ช่วงบ่ายได้รับผลกระทบจากประเด็นเครื่องบินรบรัสเซียตกส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุน

ส่วนวันนี้รองนายกฯ สมคิดนำคณะเยือนญี่ปุ่น คาดจะมีความคืบหน้าการลงทุน และโครงการรถไฟไทย – ญี่ปุ่น กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนียัง Sideway รอบแนวรับ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,395 จุด ยังคงแนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร BAY, BDMS ( + สัญญาณโมเมนตัมทางเทคนิค )

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) มองระดับดัชนีปิดตัวต่ำกว่า 1,391 SMA10วันลงมาด้วยแท่งเทียนสีดำยาว(หลังทดสอบไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,402-1,405) เป็นสัญญาณขายในระหว่างวันเมื่อวานนี้ การปรับตัวจะมีแนวรับต่อไปที่ระดับ 1,380 เป็นจุดพิจารณาซื้อเล่นรอบเมื่อยืนเหนือ ต่ำกว่าหลีกเลี่ยง  แนะนำซื้อระยะสั้นเล่นรอบเมื่อยืน 1,380 เท่านั้น ต่ำกว่ารอที่ 1,374 

 

ภาพประกอบข่าว: board.postjung.com