พาราสาวะถี
การเมืองว่าด้วยเรื่องย้ายพรรค อนุทิน ทำให้เห็นสมกับฉายาที่สื่อทำเนียบฯ ตั้งให้ “ภูมิใจดูด” ด้วยการที่มีส.ส.ต่างพรรคเกือบ 40 คน สละเก้าอี้ทิ้งพรรคเดิม
การเมืองว่าด้วยเรื่องย้ายพรรค อนุทิน ชาญวีรกูล ทำให้เห็นสมกับฉายาที่สื่อทำเนียบฯ ตั้งให้ “ภูมิใจดูด” ด้วยการที่มี ส.ส.ต่างพรรคเกือบ 40 ชีวิต สละเก้าอี้ทิ้งพรรคเดิมกระโดดมาเป็นแนวร่วมเพื่อผลักดันให้ฝันของเสี่ยหนูที่จะเป็นแกนหลักในการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นผลสำเร็จ ผิดกับท่วงทำนองของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแม้จะประกาศชัดไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติแน่ แต่ยังไม่รู้วันไหน จึงทำให้พวกที่คิดจะย้ายเกิดอาการลังเลกันเป็นแถว
แม้แต่ระดับนำขุนพลข้างกายผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจทั้ง สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงาน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ทั้งตัวและหัวใจไปกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ไขก๊อกจากพรรคสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด มีเพียงรายของชัยวุฒิเท่านั้นที่ลาออกจาก ส.ส.เพื่อเตรียมความพร้อม นี่ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าการเล่นการเมืองแบบผู้นำและลิ่วล้อสอพลอเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.หาได้สนใจใส่ใจต่อเรื่องดังกล่าว ใครจะไปเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่บทบาทนำในพรรคอย่าได้มายุ่ง คนที่ใช้ใจบันดาลแรงจึงขยันขันแข็งลงพื้นที่ขึ้นเหนือล่องใต้เป็นว่าเล่น ทว่าต้องขีดเส้นใต้ทุกแห่งที่ไปก็คือไปเดินทับรอยที่น้องเล็กได้ลงไปก่อนหน้าทั้งสิ้น ภาพตรงนี้ย่อมสะท้อนให้เห็นประเด็นที่ถูกมองแยกกันเดินร่วมกันตี ไม่น่าจะใช่ คงเป็นเรื่องของน้ำแยกสายไผ่แยกกอ หรืออีกฝ่ายตัดหางปล่อยวัดกันชัดเจนแล้ว
เรียกได้ว่ามาถึงนาทีนี้พี่ใหญ่มั่นใจในตัวของคนที่จะอยู่ร่วมงานกันต่อไป หลังจากตรวจเช็กกันแบบใจถึงใจแล้ว ก็ได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ จำนวนเสียง ส.ส.ที่คาดหมายว่าจะหายไปก่อนหน้านั้นไม่ได้มากอย่างที่คิด ผิดกับพวกที่ไปแน่แต่ยังยักแย่ยักยัน เป็นเพราะดันไปเจอตอที่พรรคใหม่ ฝ่ายที่ไปแผ้วถางทางไว้รอผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ย่อมต้องการให้คนของตัวเองกุมขุมกำลังเพื่อความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และหวังผลไปถึงอนาคตหากมีปาฏิหาริย์ดันให้ท่านผู้นำได้กลับมานั่งนายกฯ ได้อีกกระทอกจริง
สิ่งที่พวกสายตรงยังให้คำตอบกับบรรดาเสือหิวที่ไปเปิดดีลกันไว้ แต่ยังปิดจ๊อบไม่ได้คือ การย้ายไปอยู่พรรคใหม่ คนเหล่านั้นจะมีตำแหน่งแห่งหนกันอย่างไร ขณะที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ไปด้วยเงื่อนไขแคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียว และจำเป็นต้องแยกทางเดินเมื่อพรรคที่เคยหนุนพี่ใหญ่ไม่ได้ต้องการเป็นแค่คนแบกเสลี่ยงอีกต่อไปแล้ว มันจึงทำให้พวกสายตรงเกิดภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนกองเชียร์ไม่ลืมหูลืมตาถึงกับตกใจอ้าปากค้างกันเป็นแถวกับท่าทีของเลขาธิการพรรคใหม่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ
เมื่อ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศว่าพร้อมจับมือร่วมงานกับพรรคฝ่ายค้านในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าจะอธิบายเหตุผลมุมใดก็ตาม มันก็ยากที่จะทำให้บรรดากองเชียร์ยอมรับได้ ในเมื่อสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในสมองก็คือ ไม่เอาคนของระบอบทักษิณที่อุปโลกน์หลอกหลอนกันมากว่า 10 ปี การที่แม่บ้านพรรคใหม่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจประกาศเช่นนี้ มันเท่ากับเป็นการหยามเกียรติเหยียบหน้ากันชัด ๆ ไหนว่าพรรคอนุรักษ์นิยมสุดโต่งไหงทำกันแบบนี้ ย่อมส่งผลต่อคะแนนเสียงของสาวกโดยปริยาย
ในส่วนของพรรคสืบทอดอำนาจที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ยังไม่สามารถเคาะกันลงตัวได้ คือ กลุ่มสามมิตร เนื่องจากมีการอ่านเกมกันหลายตลบประสาพวกเขี้ยวลากดิน กระแสกับพรรคแกนนำรัฐบาลย่อมห่างชั้นเมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่กระทั่งกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันอย่างภูมิใจไทย แต่การจะไปร่วมกับพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจใช่ว่ากระแสจะดีกว่าพรรคเดิม มิหนำซ้ำ เรื่องกระสุนการอยู่กับพรรคเก่าถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นระดับนำก็ต้องควักกันบ้างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
ไม่ว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน จะเล่นลิ้นอ้างความเปลี่ยนแปลง การเมืองต้องดูกันยาว ๆ เพื่อยื้อจังหวะ ซื้อเวลาดูสถานการณ์กันก่อนตัดสินใจ แต่สุดท้ายอาจต้องจำใจอยู่ที่เดิมเพื่อลูกทีมจะได้มีอนาคตที่ดีหลังเลือกตั้งแม้จะพ่ายแพ้ก็ยังสามารถอยู่กันแบบสบายได้ ดีกว่าย้ายคอกได้แค่อาศัยกระแสที่พากันหลอกตัวเองว่ายังดีอยู่ โดยกระสุนกลับโยกให้เป็นภาระของผู้นำทีม สิ่งสำคัญคือ ไม่อาจการันตีได้ว่าถ้าเลือกที่จะเป็นฝ่ายไป ครั้งหน้าจะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกหรือไม่
จนถึงเวลานี้ทิศทางการเมืองว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงหากไม่ใช่การหลอกกันเองก็มีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นตามลำดับ โอกาสของรัฐบาลที่เป็นไปได้คือ เพื่อไทยจับมือภูมิใจไทยบวกพลังประชารัฐหรืออาจเป็นสองพรรคบวกกับก้าวไกล เนื่องจากคะแนนเสียง ส.ส.จะถล่มทลายไม่ต้องเกรงว่า ส.ว.ลากตั้ง 250 เสียงจะไม่โหวตเลือกนายกฯ ที่ไม่ใช่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ แม้ว่าพรรคนายใหญ่จะยังคงมุ่งมั่นกับแลนด์สไลด์ แต่ปลายทางยังไงก็ต้องจับมือกับพรรคใดพรรคหนึ่งหรือทั้งสองพรรคในซีกรัฐบาลปัจจุบัน
เพียงแต่ว่าโจทย์ของการจับมือกับแค่ภูมิใจไทยแล้วมีคะแนนเสียง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งไม่เท่าไหร่ อาจจะเป็นปัญหาในแง่ของการหวังเสียงหนุนจาก ส.ว.ลากตั้ง เว้นเสียแต่จะยอมให้มีการเสนอชื่ออนุทินแทนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เงื่อนไขตรงนี้อาจจะไม่ยาก ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีพรรคสืบทอดอำนาจเข้าร่วมด้วย ยี่ห้อของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.สามารถที่จะการันตีได้ว่าเสียงของ ส.ว.ที่ไม่น้อยกว่า 100 เสียงพร้อมที่จะเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากขั้วรัฐบาลใหม่อย่างแน่นอน
บอกแล้วว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องที่ขีดเส้นได้ต้องเป็นแบบนี้ตลอดไป ขนาดแก๊ง 3 ป.ที่ว่าเหนียวแน่นกันมาครึ่งค่อนชีวิตยังแตกคอกันได้ จนเกิดเป็นแก๊ง 3 ป.ใหม่ และ 3 ต. ไม่เพียงเท่านั้นการเดินเกมของพรรคพลังดูดด้านหนึ่งเสี่ยหนูเปิดหน้าขอเป็นแกนหลักในการตั้งรัฐบาล อีกด้านอาจารย์ใหญ่ที่ปรึกษาคนสำคัญ เนวิน ชิดชอบ ลั่นไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวรทางการเมืองพร้อมจับมือกับทุกพรรคทุกขั้ว นั่นมันย่อมทำให้คนอยากอยู่ยาวเริ่มจะอยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขึ้นชื่อว่าสงครามเมื่อยังไม่จบก็อย่าพึ่งนับศพทหาร พวกเผด็จการอย่างหนาสามารถทำอะไรที่ใครไม่คิดว่าจะกล้าทำหรือทำได้ตลอดเวลา