เคาะขวาส่งท้าย

ก่อนอื่นต้องเล่าให้แฟนคลับขาประจำของ “โมนิก้า” ให้ฟังเนิ่น ๆ ว่า การเข้ามาซื้อของ “กองทุน” กับ “ต่างชาติ”ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยดีสุด ๆ จนเดี๊ยนคลายสงสัยในประเด็นที่จะเป็นตัวถ่วงรั้งตลาดหุ้นไทยไปหมดสิ้นแบบนี้ มันเป็นจังหวะที่ต้องเดินหน้าลุยโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก (เน้นเข้าทำเร็ว)  ขณะเดียวกันก็ต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้บ้างนะคะ

ยกเว้นนักเล่นที่มีแนวคิดมองไปข้างหน้า 3-6 เดือน ถือเป็นจุดที่ต้องเล่นแบบไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะคนส่วนใหญ่มีมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ จึงกลายเป็นตัวเร่งให้เงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาจำนวนมหาศาล ผสานกับตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกของตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญ เลยทำให้ตลาดหุ้นไทยเริงร่าสุด ๆ เมื่อหายตกใจไงล่ะคะ

งานนี้จะบอกเป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานก็ไม่เชิง และจะบอกเป็นผลทางจิตวิทยา ก็พูดได้ไม่เต็มปาก หรือแม้กระทั่งจะบอกเป็นเรื่องเทคนิค ก็รู้สึกกระดากปาก เลยเอาเป็นว่า หลายอย่างมารวม ๆ กันดีกว่า! ดัชนีถึงขึ้นมายืนปิดที่ 1,647.28 จุด บวกไป 4.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.71 หมื่นล้านบาท แถมยังทำให้นักเล่นฝันหวานไปไกลถึงขั้นที่ว่า 1,700 จุดอยู่แค่เอื้อมอีกด้วยแบบนี้..ความมั่นใจมาเต็มเลยนะคุณพี่!

โดยเฉพาะในรายของเจ้าแม่นิคมฯ WHA กระชากขึ้นพรวดพราดทุกครั้งที่มีข่าวเปิดประเทศ จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 4.10 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 850 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 18 เท่า “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เมคเซ้นส์อย่างแน่นอน แถมมีข่าวเม้าท์เกี่ยวกับยอดขายที่ดินปีหน้ามีสิทธิ์ทะลุสองพันไร่ให้ได้ยินตลอดเวลาแบบนี้..แมงเม่าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ น่าลุยดูสักตั้งนะคะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้เดี๊ยนต้องเอ่ยถึง GUNKUL ซึ่งเป็นหุ้นที่มีสตอรี่เติบโตปูทางไว้เรียบร้อย แต่ยังโดนทดสอบแรงขายตลอดเวลา จนวานนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.20 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นหุ้นที่น่าเล่นตามน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทิศทางธุรกิจมีความชัดเจนในการปั๊มกำไร จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นสั้น ๆ ในระหว่างรอตัวเลขกำไรนะจะบอกให้

ส่วนรายที่มีข่าวดีเข้ามาเป็นระยะอย่าง JMT ก็กลายเป็นหุ้นทรงสวยที่มีพื้นฐานรองรับเต็มประตูหน้าต่าง เดี๊ยนเลยไม่กังขาการขึ้นมาปิดที่ระดับ 67.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393 ล้านบาท เพราะเมื่อดูแวลูที่จะเพิ่มขึ้นจากการตามเก็บหนี้มากขึ้นทุกปี เลยทำให้ค่า PE 55 เท่า ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับคนที่เชื่อมั่นว่า นี่คือโกรทสต๊อกที่ตลาดให้แวลูมากเป็นพิเศษนะจ๊ะ

อีกรายที่เจ๋งเป้งสุด ๆ “โมนิก้า” ขอหันไปมองหุ้น CBG เป็นรายถัดไปในทันที และเหตุผลที่หยิบยกหุ้นตัวนี้ขึ้นมาเม้าท์แตก ก็มาจากผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ ผสานกับราคาหุ้นกำลังเริ่มตั้งทรงอีกครั้ง จึงมองราคาหุ้นที่ระดับ 96.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253 ล้านบาทยังมีแก๊ปให้เล่นต่อ ผสานกับเป็นช่วงของการเก็บหุ้นปันผลพอดี จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจสุด ๆ พะยะค่ะ

ส่วนคนที่รักความโลดโผนสุด ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูหุ้น BIOTEC เป็นตัวเลือกสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ เพราะตัวเลขที่ว่ากันว่าจะสวยเช้ง เอาเข้าจริงจะทำได้เหมือนที่ร่ำลือกันหรือเปล่า? เดี๊ยนเลยสงสัยการขึ้นมาปิดที่ 0.93 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาทจะเล่นกันยาวขนาดไหน? เพราะรอบก่อนก็ปั่นขึ้นไปถึง 1.60 บาท แต่หลังจากนั้นก็ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนมาทำโลว์ไว้ที่บริเวณ 0.60 บาท

เหมือนกับในรายของ MVP ทะยานขึ้นไปถึงระดับ 2.62 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 115 ล้านบาท กลายเป็นจุดที่ทำให้เดี๊ยนต้องถามตัวเองว่า นักเล่นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? (บริษัทขาดทุนยับ ไม่มีค่าพีอี) ผสานกับปัญหาหลายอย่างยังคาราคาซัง อีกทั้งแนวทางที่จะทำให้บริษัทคัมแบ็คก็ไม่ชัดเจน จึงกลายเป็นความเสี่ยงสำหรับคนที่ออกของไม่ทันเจ้าค่ะ