“ดาวโจนส์” พุ่งเกือบ 300 จุด ขานรับตัวเลขว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น

“ดาวโจนส์” พุ่งเกือบ 300 จุด ทะลุ 33,000 จุด ขานรับตัวเลขว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น ช่วยชะลอเฟดขึ้นดอกเบี้ย โดย ณ เวลา 22:29 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 284.00 จุด หรือ 0.86% สู่ระดับ 33,331.00 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(29 ธ.ค.65) ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ทะลุแนว 33,000 จุด ขานรับการเปิดเผยตัวเลขว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดย ณ เวลา 22:29 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 284.00 จุด หรือ 0.86% สู่ระดับ 33,331.00 จุด

อย่างไรก็ดี แม้ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันนี้ แต่ก็ยังคงปรับตัวลง 0.4% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ดิ่งลง 6.5% และ 1.6% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวย่ำแย่ในปีนี้ โดยทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3 ปีติดต่อกัน โดยขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงราว 9% นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทรุดตัวลง 20% และ 34% ตามลำดับ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 41,000 ราย สู่ระดับ 1.710 ล้านราย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

Back to top button