บลจ.กรุงไทย เปิดขายกองKTFF73พร้อมปันผล 6 กองอสังหาริมทรัพย์
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 73 ( KTFF73 ) เสนอขายวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2558 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 73 ( KTFF73 ) เสนอขายวันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2558 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท
โดยเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท พันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC และเงินฝากประจำ Ahli Bank QSC ผลตอบแทนประมาณ 1.70% ต่อปี
ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 6 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 1,269 ล้านบาท ประกอบด้วยกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.4500 บาทต่อหน่วย ,กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1840 บาทต่อหน่วย พร้อมลดทุนจดทะเบียน ในอัตรา 0.0040 บาทต่อหน่วย รวมจำนวนเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ 0.1880 บาทต่อหน่วย
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.123 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ ( TCIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1580 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ ( THIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0900 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( EGATIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1100 บาทต่อหน่วย
การจ่ายเงินปันผล 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 กรกฎาคม -30 กันยายน 2558 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ในวันที่ 16 ธันวาคม 2558 และจ่ายเงินลดทุน สำหรับกองทุน CPTGF ในวันที่ 17 ธันวาคม 2558
กองทุน TTLPF ลงทุนในสิทธิการเช่าบางส่วนในโครงการตลาดไทระยะเวลา 20 ปี (ปัจจุบันสัญญาเช่ามีอายุคงเหลือ 16 ปี ) ประกอบด้วย อาคารตลาดน้ำปลาน้ำจืด / อาหารทะเล อาคารตลาดอาหารแปรรูป อาคารตลาดสด อาคารตลาดหมูปลอดสาร อาคารตลาดของแห้ง / ตลาดขนมใหม่ อาคารศูนย์อาหาร อาคารตลาดผัก อาคารตลาดดอกไม้ อาคารส้ม อาคารผลไม้คัดคุณภาพ อาคารผลไม้รวม โชว์รูมตลาดนัดมอเตอร์ไซด์ รถเข็นคุณภาพ อาคารห้องน้ำ อาคารสำนักงานตลาด (ภาคกลางคืน) อาคารเอนกประสงค์ ที่จอดรถ ลาน A และ ลาน B กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,949 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายปันผล 4 ครั้งต่อปี
กองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคารซี.พี . ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์ ) และอาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,913 ล้านบาท ผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายในประเภทของธุรกิจ ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล และกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละ 4 ครั้ง
กองทุน TRIF มีนโยบายลงทุน (freehold) ในศูนย์การค้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการตะวันนา และโครงการโอ.พี.เพลส กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 21,190 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
กองทุน TCIF มีนโยบายลงทุน แบบ Leasehold + Freehold โดยลงทุน Freehold ในโครงการ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ อาคารเอ็มไพร์ อาคารไซเบอร์ เวิร์ลด และอาคาร 208 และสิทธิการเช่าในที่ดิน ( Leasehold) สำหรับอาคารแอทธินี โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 27,672 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ปีละ 2 ครั้ง
กองทุน THIF ลงทุนในโรงแรม จำนวน 12 แห่ง ตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ประกอบด้วย 1) โรงแรม อิมพีเรียล สมุย บีช รีสอร์ท 2 ) โรงแรม อิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท 3) โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค 4) โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต 5) โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ถ. สุรวงศ์ เขตบางรัก 6) โรงแรม บันยันทรี สมุย 7) โรงแรมวนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย 8) โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 9) โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน กรุงเทพ 10) โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 11) โรงแรม โอกูระ เพรสทีส กรุงเทพ และ12 ) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ
กองทุนนี้เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดีมีศักยภาพในการเจริญเติบโตของรายได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่ตั้งทั้งอยู่ใจกลางเมือง และเขตธุรกิจในกรุงเทพ และรวมถึงต่างจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยกองทุน นี้มีมูลค่าโครงการ 28,459 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
กองทุน EGATIF ลงทุนในสิทธิการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย ในอนาคตที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า พระนครเหนือ ชุดที่ 1ด้วยการเข้าทำสัญญากับกฟผ. ในสัญญาการเข้าลงทุน ในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายซึ่งมีอายุสัญญา 20 ปี นับจากวันที่กองทุนรวมเข้าลงทุน