ราคาทองปิดลบเกือบ 4 ดอลล์ หลังตลาดคลายกังวลตะวันออกกลาง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิด (25 พ.ย.) ที่ระดับ 1,070.00 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.1เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 14.158 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 843.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 843.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกต่อความรุนแรงในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานข่าวว่า รัสเซียเตรียมให้ความร่วมมือในการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ภายใต้กลุ่มพันธมิตรสหรัฐ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ซึ่งรวมถึงตุรกี

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยทางการสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 260,000 ราย และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ที่ระดับ 270,000 ราย นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

ส่วนยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2007 โดยกระทรวงระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 495,000 ยูนิต

Back to top button