“บล.พาย” แนะจับตา “เงินเฟ้อ” สหรัฐสัปดาห์นี้ คัด 10 หุ้นน่าลงทุน
“บล.พาย” มองสัปดาห์นี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ พร้อมคัด 10 หุ้นน่าลงทุน ชู GPSC-SCB เด่นสุด
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.66) มองว่าตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปรับขึ้น 2.1% หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แม้จะสูงกว่าตลาดประเมินไว้แต่ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงต่ำกว่าตลาดประเมิน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.15% ไร้ปัจจัยที่มีนัยยะ
สำหรับภาคแรงงานสหรัฐฯพบว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 2.23 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 3.5% ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 3.7%
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ตลาดปรับขึ้นแรงเพราะว่าตลาดไปให้น้ำหนักกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ปรับขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนก่อน ต่ำกว่าตลาดคาด 0.4% จากเดือนก่อน และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อช่วยให้ตลาดคลายกังวลกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ บ่งชี้ถึงการอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ PMI ภาคบริการที่ต่ำกว่าตลาดคาดและต่ำกว่าระดับ 50 (49.6) พร้อมกับคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานหดตัวที่ 1.8% จากเดือนก่อน แย่กว่าตลาดประเมินว่าจะหดตัวเพียง 0.9% จากเดือนก่อน ภายหลังจากรายงานพบ US Bond Yield 2, 10 ปีปรับลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงการผ่อนคลายดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ
ส่วนสัปดาห์นี้ตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯที่มีกำหนดการจะเปิดเผยในช่วง 20:30 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.5% จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.1% จากปีก่อน หากต่ำกว่าตลาดคาดการณ์มองเป็นบวกเล็กน้อยกับสินทรัพย์เสี่ยง
รวมถึงค่าเงินบาทให้ยังคงทิศทางแข็งค่าต่อไป ถัดมาตลาดจะไปให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันอังคารซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมวิชาการตลาดน่าจะจับตารอดูความเห็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากยังส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอตัวลง ก็ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ (เชื่อว่าจะออกมาแบบนั้น) ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 1,660 – 1,690 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังให้เน้นเป็นเพียงแค่ Trading ยังมองตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควรทั้งผ่อนคลายดอกเบี้ย ผ่อนคลายเงินเฟ้อ และการเปิดประเทศของจีน
อย่างไรก็ตามช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอยและปรับลดประมาณการกำไรบริษัทฯ ส่วนหุ้นแนะนำเน้นที่ยังปรับขึ้นน้อยแต่มีปัจจัยบวก อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ค้าปลีก (BJC, HMPRO) สื่อสาร (ADVANC, INTICH) โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, RATCH) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)
สำหรับหุ้นเด่น 2 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC (ถือ / ราคาเป้าหมาย 69 บาท) คาดว่าอัตรากำไรจะฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังปี 66 ถึงปี 67 จากคาดการณ์ว่าความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซียจะคลี่คลายลงและราคาก๊าซกลับสู่ระดับปกติ
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท) SCB X ตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้เฉลี่ยที่ 10% ในปี 65-68 ด้วยส่วนแบ่งธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม ด้วยเป้าหมายในการเร่งอัตราการเติบโตของกำไรที่เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ บริษัทจะเน้นธุรกิจ Gen 2 และ Gen 3 มากขึ้น โดยมีแผนการทำ IPO ธุรกิจ CARD X (ROE มากกว่า 20%) และ Innovest X (ROE 25%) ในปี 68 และ AUTO (ROE มากกว่า 25%) ในปี 70