เขี่ยเศษผง..พ้นจากดวงตา
เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า “ไม่ขัดหรือแย้ง” ต่อรัฐธรรมนูญ นั่นจึงเท่ากับเป็นการ “เขี่ยเศษฝุ่นผง..พ้นออกจากดวงตา”
เป็นที่ชัดเจนเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าการกระทำของสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน, และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมผลิตไฟฟ้าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ “ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ”
พร้อมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีข้อแนะนำว่า รัฐโดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต้องดำเนินกำหนดกรอบหรือเพดานสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเอกชนในระบบผลิตไฟฟ้าประเทศ และกำหนดปริมาณไฟฟ้าสำรอง
อันเกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนอันส่งผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนให้สอดคล้องและใกล้เคียงความเป็นจริง
คดีนี้สืบเนื่องจาก “สุทธิพร ประทุมเทวาพิทักษ์” อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ยื่นฟ้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยว่ากระทรวงพลังงานกำหนดยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน (พ.ศ. 2559-2563) และแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ทำให้สัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าของรัฐลดต่ำกว่า 51% เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 56
เรื่องนี้มันเป็นผลตกทอดมา “สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน” แจ้งผลการวินิจฉัยกรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2018) โดยให้เอกชนเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า ส่งผลสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าของรัฐลดลงต่ำกว่า 51% ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ (มาตรา 56) ช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา
นั่นจึงทำให้บรรดา NGO สายเอ็น (Energy) หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นสร้างความชอบธรรมและเรียกร้องให้รัฐเปลี่ยนแปลงแผนการผลิตไฟฟ้าเพราะที่เป็นอยู่มันเอื้อประโยชน์เอกชนมากเกินไป นำโดย “รสนา โตสิตระกูล” ที่กล่าวอ้างว่าการไฟฟ้าฝ่ายแห่งประเทศไทย (กฝผ.) ผลิตไฟฟ้าน้อยกว่า 51% โดย ผลิตเองเพียงแค่ 32% และรับซื้อจากเอกชนและซื้อจากต่างประเทศถึง 68% ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ..!!
เรื่องนี้เองทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนกังวลปนความระแวงว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “ขัดรัฐธรรมนูญ” ขึ้นมา.! “หุ้นโรงไฟฟ้า” มีหวังปั่นป่วนรุนแรง..อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.!?
แหละนั่นเอง..เมื่อมีใครสะกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มักพาให้ “หุ้นไฟฟ้า” ผันผวนป่วนปั่นตามไปด้วย
เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า “ไม่ขัดหรือแย้ง” ต่อรัฐธรรมนูญ นั่นจึงเท่ากับเป็นการ “เขี่ยเศษฝุ่นผง..พ้นออกจากดวงตา”..และปลดล็อกความเสี่ยงที่มีต่อ “หุ้นไฟฟ้า” ออกไปอย่างสิ้นเชิง
นับจากนี้สืบไปเบื้องหน้าว่า..มาดูกันว่า NGO สายเอ็น..จะเอาอะไรมา “ปั้นมุก..ปั่นกระแส” ได้อีก..!!??
เอาเป็นว่าตราบใดที่ Ft ปรับขึ้น จนมีผลต่อ “ค่าไฟแพง” แบบนี้..เชื่อกระทรวงพลังงานและผู้ประกอบการไฟฟ้า มีหวังได้เจอ “ดราม่าค่าไฟแพง” ต่อไปอีกนาน
ว่าแต่ว่าจะมาในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง..!!