ตอนทับก็ห้ามร้อง แล้ว…ทำอย่างไร??
หุ้นเพิ่มทุนของ CHO เริ่มซื้อขายวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ราคาก็ทรุดต่ำลงไปที่แถว ๆ ใต้ 0.35 บาทต่อหุ้น
หุ้นเพิ่มทุนของ CHO เริ่มซื้อขายวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ราคาก็ทรุดต่ำลงไปที่แถว ๆ ใต้ 0.35 บาทต่อหุ้น หลังจากที่ตัวเลขผลประกอบการเลวร้ายเกินคาด โดยที่งวด 9 เดือนแรกของปีปรากฏตัวเลขขาดทุนสุทธิเข้าไปแล้วกว่า 470 ล้านบาท……ทำสถิติที่ตรงข้ามกับการคาดเดาของฝ่ายเชียร์แขกที่คาดเดาไว้ว่าการเพิ่มทุนจะช่วยให้ฐานทุนแกร่งขึ้น
ข้อเท็จจริงที่ปิดไม่ได้ ผิดกับการคาดเดาของบริษัท และขาเชียร์ ทำให้บุ๊กแวลูลดลงไปเหลือแค่ 0.40 บาทต่อหุ้น ทั้งจากการเพิ่มทุนมหาศาล และการขาดทุนที่ทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นร่อยหรอลงไปมาก
หรือ ประเด็นปัญหาคือวอร์แรนต์หรือ CHO-W3 ที่เอาออกมาแจกผู้ถือหุ้นเดิมเป็นตัวปลอบประโลมใจว่าเป็นความพยายามคืนกำไรให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ขาดทุนจากการเพิ่มทุนจำนวนมหาศาลจากราคาแปลงสิทธฺิ (ที่ราคาหุ้นตกต่ำลงไปเหลือแค่ 35 สตางค์หรือ 0.35 บาท) สามารถชดเชยได้จากการขายทิ้งวอร์เแรนต์ CHO-W3……ซึ่งไม่มีกำหนดว่าจะเทรดเมื่อใด
ผลลัพธ์คือการจับเอาวอร์แรนต์เป็นตัวประกันที่ไร้คุณค่าโดยปริยาย
การกระทำเช่นนี้เท่ากับตลาดร่วมมือกับนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการคนนิสัยดีและขยันขายฝัน ในการเล่นเกมกับผู้ถือหุ้นอย่างมัดมือชกอย่างที่ไม่มีทางรับมือได้เลย
CHO นั้น เป็นหุ้นที่มาพร้อมกับความปรารถนาดีที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะนอกเหนือจากธุรกิจหลักในการรับผลิตตัวถังรถยนต์เพื่อป้อนกองทัพและรัฐวิสาหกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว ก็มีการเพิ่มทุนบ่อยครั้งมากเกือบทุกปี จนกระทั่งราคาหุ้นถอยลงจากกำไรต่อหุ้นที่ลดลงไปจากปริมาณของหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างสูงมาก โดยครั้งสุดท้ายต้นปี 2565 มีการประกาศเพิ่มทุนมหาศาลกว่า 1 เท่าตัว โดยมีการแจกวอร์แรนต์จำนวนมากเพื่อแลกประโลมใจถือหุ้นเดิม
มติดังกล่าว ทำให้ CHO ทำการเพิ่มทุนอีก 100% โดยออกเป็นหุ้นสามัญ 50% หรือ 380 ล้านหุ้น
ได้ออกหุ้นสามัญของ CHO จำนวน 360 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 50% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด 720 ล้านหุ้น แล้วออกวอร์แรนต์ หรือ CHO-W3 อีกเท่ากันคือ 380 ล้านหน่วยแจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมโดยทางฝ่ายประเมิน มูลค่าวอร์แรนต์ตามวิธี Black-Scholes model จะมีมูลค่าต่อหน่วยที่ 1.60 บาท โดยมีราคาแปลงสิทธิในอนาคตอยู่ที่ 34 สตางค์ต่อหุ้น
ในช่วงแรกนักวิเคราะห์คาดหมายกันว่า คาดว่าระดับราคาหลังวันขึ้น XW จะปรับลดลงมาที่ระดับ 0.80 บาทต่อหุ้น แต่เอาเข้าจริงราคาต่ำกว่านั้นเยอะแรกสุดของมติเพิ่มทุนที่ออกมาท่ามกลางเสียงเชียร์ของสื่อขาเชียร์และเชลียร์ เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่ที่แท้จริงการเพิ่มทุนดังกล่าวโดยอ้างเหตุผลสวยหรู กลับเกิดขึ้นจากการรู้ล่วงหน้าจากผลการดำเนินงานที่แย่มาก
ที่สำคัญข่าวสารที่ค่อนข้างมั่วซั่วของ CHO จากเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจนของบริษัทที่มีการกำหนดวันเวลาใช้สิทธิแปลงของวอร์แรนต์ จากเดิมในวันที่กำหนดเดิมเป็นวันกำหนดการซื้อขายในตลาด ที่หลังจากหุ้นสามัญเข้าเทรดแล้ว แต่กำหนดของวันเวลาสำหรับวอร์แรนต์ CHO-W3 กลับไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน เหมือนดังที่เคยเป็นมา
ทำให้มีคำถามว่า แล้วการคืนทุนของรายย่อยที่ถูกชำเรา “ไปแล้วจะเป็นเช่นไร”
คำตอบคือความเงียบ
ชนิดที่ว่า ถ้าทนได้ก็ต้องทนต่อไป
หรือจะถือว่า ใครจ่ายค่าโง่ได้ “อย่าบ่นก็แล้วกัน”
ภาษานักเลงหรือจิ๊กโก๋ท้ายซอย ก็คือ ตอนที่ทับก็ไม่ให้ร้องแล้ว “ตอนท้องจะทำยังไงดี” จึงถือเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ และถึงจะมีคำตอบ ก็ยังสงสัยอยู่ ไม่สร่างซา
ความงุนงงตั้งแต่แรกของประกาศจากบริษัทที่แจ้งมาสำหรับการอ้างถึง “ประโยชน์ที่บริษัทจะพึงได้รับจากการออกวอร์แรนต์ดังกล่าว เพื่อช่วยเพิ่มกระแสเงินสดรับ เพื่อนำไปใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และเป็นการขยายฐานทุน ส่งผลให้มีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ลดลง” จึงยังเป็นคำล่อลวงที่สวยงามต่อไป
แม้ว่ามันจะฉาบเคลือบด้วยยาพิษสำหรับตลาดมากเพียงใด