ASEFA มองกำไรปี 58-59 ทำนิวไฮต่อเนื่อง เล็งเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
ASEFA เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นโต 35-40% มาที่ 2.5 พันลบ. จากเดิมคาดโต 20% มองกำไรปี 58-59 ทำนิวไฮต่อเนื่อง เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้และปีหน้าจะสามารถทำกำไรสุทธิในระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ตามรายได้ที่เติบโตจากรับรู้ปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่
ขณะที่การลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่จะออกมาจะช่วย หนุนปริมาณงานในมือในอนาคตด้วย พร้อมอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่การลงทุนยังต้องพิจารณาความคุ้มค่าด้วย
โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้เป็นเติบโต 35-40% มาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท จากเป้าเดิมที่โต 20% หลังในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำรายได้เติบโต และในช่วงไตรมาส 4/58 จะรับรู้รายได้จากงานในมืออีกว่า 600 ล้านบาทด้วย ซึ่งจะหนุนให้รายได้ในไตรมาส 4 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/58 ด้วย โดยสัดส่วนรายได้ปีนี้มาจากการผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย 62% ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อ 14% งานบริการ 16% และรายได้จากการรื้อถอนโรงไฟฟ้า 8% นอกจากนี้บริษัทยังได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
สำหรับปี 59 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากคาด 2.5 พันล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากมีการลงทุนภาครัฐและเอกชนเป็นปัจจัยสนับสนุน นอกจากนี้บริษัทจะยังรับรู้รายได้งานในมืออีกราว 900 ล้านบาท จากงานในมือทั้งหมดที่มีในปัจุบัน 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิในปีหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีนี้ด้วย
ขณะเดียวบริษัทได้ยื่นประมูลงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มูลค่า 2-3 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ผลการประมูลภายในช่วงปี 59 ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงานมากกว่า 60% นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมในการรับงานต่อจากผู้ประมูลด้านขนส่งมวลชนโทรคมนาคม DATA Center จะช่วงเพิ่มมูลค่างานในมือมากขึ้น
สำหรับแผนจัดตั้งสาขาในต่างจังหวัด 10 แห่งบริเวณเขตชายแดน เช่น จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดตาก เพื่อเป็นตัวกลางในการติดต่อลูกค้าและบริการหลังการขายนั้น มีความล่าช้าออกไปบ้าง เนื่องจากบริษัทพิจารณาสถานที่ตั้งและบุคลากร โดยคาดว่าการจัดตั้งสาขาดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนรวม 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีความสนใจลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและประเมินมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสม โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทำโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยการลงทุนนั้นบริษัทต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนเสมอ ทำให้ยังไม่รีบร้อนที่จะตัดสินใจในขณะนี้