ลุยหุ้นเล็ก

ตั้งแต่ปีใหม่ “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับหุ้นใหญ่ไปมากพอสมควร เลยถือโอกาสนี้เปิดพื้นที่ให้กับหุ้นเล็กกันบ้าง เพราะสตอรี่ที่เห็นเที่ยวนี้ไม่ธรรมดา


ตั้งแต่เปิดปีใหม่ขึ้นมา “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับหุ้นใหญ่ไปมากพอสมควรแล้ว เลยถือโอกาสนี้เปิดพื้นที่ให้กับหุ้นเล็กกันบ้าง เพราะสตอรี่ที่เห็นในเที่ยวนี้ไม่ธรรมดาทั้งนั้น แถมราคาในกระดานก็เป็นระดับที่ทุกคนเอื้อมถึง จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเล่นประเภทเบี้ยน้อยหอยน้อย ผสานกับตลาดหุ้นมองไปที่เรื่องผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 66 จะออกมาโตสะบึ้มฮึ่มเป็นหลัก เลยเป็นโอกาสดีที่จะเม้าท์มอยถึงหุ้นเหล่านั้นเจ้าค่ะ

ประกอบกับตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงของการย่ำฐาน เพื่อวิ่งทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดพอดี จึงเปิดช่องให้หุ้นเล็กได้โชว์หน้าค่าตาให้ขาลุยได้ยลโฉมกันแบบจุใจ “โมนิก้า” เลยมีอาการเนื้อเต้นที่จะได้เห็นหุ้นเล็กกลับมาโลดโผนในจังหวะที่ดัชนีกำลังทดสอบแรงขาย เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1,681.73 จุด ลบไป 5.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.76หมื่นล้านบาท มันก็เหมือนกับเหตุการณ์ครั้งก่อน ๆ ที่แตะปุ๊บ..ขายปั๊บไงล่ะ!

โดยเฉพาะพวกเสือปืนไว ต้องไม่พลาดตัวแรงอย่าง CPL หลังพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.14 บาท บวกไป 0.12บาท หรือขึ้นไป 3.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 95 ล้านบาท ทั้งที่ธุรกิจฟอกหนังยังเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เจ้ามือต้องการดันหุ้นแบบสุดซอยอีกรอบ จึงเคาะกะลาเรียกพวกขาลุยให้มาร่วมแจมอย่างเป็นทางการ และดูเหมือนเที่ยวนี้จะมีเสียงร่ำ ๆ ว่า ซัดกันยาวเสียด้วยนะจ๊ะ

อีกรายที่กลับมาใหม่ตามคำเรียกร้อง “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น STARK ภายใต้การกุมบังเหียนของ “พี่โอ๋” ก็กลับมาตามคำสัญญาที่ให้ไว้แบบนี้ กลายเป็นเกมสนุกสำหรับคนที่ชอบลุยเผือกร้อน เพราะสตอรี่ต่อจากนี้จะเป็นการปั้นกำไร และมองหาบริษัทใหม่ที่จะเข้าไปทำ M&A งานนี้เลยขึ้นอยู่กับว่า ทุกอย่างจะมาเมื่อไหร่? แต่ที่แน่ ๆ ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.68 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 585 ล้านบาทแล้วค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ WICE ขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 177 ล้านบาทเป็นวันแรกแบบนี้ “โมนิก้า” อนุมานได้ทันทีว่า นี่เป็นผลมาจากความคาดหวังกำไรจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เพราะการที่จีนอ้าแขนรับไทยแบบไม่มีกั๊ก ย่อมเป็นจุดพลิกเกมที่สำคัญของหุ้นตัวนี้ และมีลุ้นเห็นหุ้นไปต่อแบบยาว ๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าจับตาดูสุด ๆ พะยะค่ะ

ส่วนหุ้นไซด์กลางที่น่าจับตาไม่แพ้รายข้างต้น “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองไปที่หุ้น SGC เพราะในมุมของการเติบโตน่าสนใจสุด ๆ แถมเมื่อมองดูจากอัพไซด์ที่มีค่อนข้างเยอะ จึงกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้เห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 491 ล้านบาท เหมาะต่อการไหลตามน้ำแบบไร้ข้อกังขา และเชื่อว่า ยอดเดิมที่บริเวณ 5.50 บาทก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมนะคะ

ในเมื่อต้องการไหลตามน้ำแบบมัน ๆ ก็ควรเหลือบมองหุ้น BBGI ซึ่งขยับตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นหลายวัน และสตอรี่เที่ยวนี้ก็วนเวียนกับคำว่า “เทิร์นอะราวด์” เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นการขึ้นมาปิดที่ระดับ 7 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท โดยหุ้นมีบุ๊กอยู่ที่ระดับ 7.20 บาท ย่อมเป็นแรงหนุนให้หุ้นวิ่งกลับไปที่บริเวณ 8 บาทได้ไม่ยากเย็นในมุมของสตอรี่ที่เกริ่นให้ฟังจ้า!

ประเด็นที่เกริ่นไว้ข้างต้นกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นตัวหนึ่งที่มาด้วยสตอรี่ “เทิร์นอะราวด์” เมื่อปีที่ก่อน ขณะที่ปีนี้จะมาด้วยสตอรี่โกรทแบบเต็มรูปแบบ เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยจับตาดูหุ้น PSG ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.28 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 3.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88 ล้านบาท เหมือนเป็นความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.40 บาทอีกรอบนะตัวเอง

ส่วนม้ามืดที่น่าจับตาในมุมของการโตสะบึ้มในช่วงไตรมาส 2 “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น JR เป็นการปิดท้าย เพราะเมื่อดูจากแบ็กล็อกหมื่นล้านที่ประกาศออกมาล่าสุด และยังมีงานรอประมูลไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท เดี๊ยนย่อมเชื่อแบบสนิทใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.95 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.42% ท่ามกลางค่า PE 30 เท่า มันเป็นระดับที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่เน้นลงทุนยาวนะจะบอกให้

Back to top button