SAF เปิดดีปีกระต่าย.!

กลายเป็นหุ้นไอพีโอตัวแรกของปีกระต่ายที่ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง สำหรับบริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF


กลายเป็นหุ้นไอพีโอตัวแรกของปีกระต่ายที่ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง สำหรับบริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF เพราะเปิดเทรดมาพุ่งพรวดไปแตะ 4.80 บาท เหนือจอง 149% ก่อนจะปิดเทรดที่ 2.82 บาท เหนือจอง 46.11% จากราคาไอพีโอที่ 1.93 บาท

ในแง่มูลค่าการซื้อขายก็คึกคักตลอดทั้งวัน วอลุ่มเทรดทะลักกว่า 3.22 พันล้านบาท

ด้วยความที่ SAF เป็นหุ้นตัวไม่ใหญ่มาก แถมขายไอพีโอแค่ 80 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai เลยทำให้เป็นหุ้นที่รอดหูรอดตาและรอดเรดาร์จากนักวิเคราะห์ ไม่มีโบรกเกอร์ค่ายไหนออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้เลย…

ขณะที่ก่อนจะเข้าตลาดฯ ก็ถูกกังวลกันเยอะ เนื่องจาก SAF เป็นหุ้นเหล็ก ธุรกิจหลักนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงบริการชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศ โอเค…แม้จะมีลูกค้าเป็นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่แหละ แต่จากต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้น ก็น่าเป็นห่วงถึงความสามารถในการปั๊มกำไร

ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินบาทก่อนหน้านี้ เกรงจะฉุดผลประกอบการของ SAF อย่างมีนัยสำคัญ…

ที่สำคัญ SAF เป็นหุ้นไอพีโอตัวแรกของปีกระต่าย ก็เลยมีแรงกดดันค่อนข้างเยอะ…เกรงว่าเข้ามาแล้วจะแป้กมากกว่าปังน่ะสิ..!?

เลยทำให้ SAF กลายเป็นหุ้นที่อยู่นอกสายตาของนักลงทุนไปโดยปริยาย..!!

แต่ที่ไหนได้ เปิดเทรดมาวิ่งกระจุยกระจาย ระหว่างวันขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 4.84 บาท ก่อนจะย่อลงมาปิดตลาดที่ 2.82 บาท

SAF จึงคว้าตำแหน่งหุ้นเปิดสวยรับปีกระต่ายไปครอง..!!

ทำเอานักลงทุนที่มีหุ้น SAF ณ ราคาไอพีโออยู่ในพอร์ต เป๋าตุงไปตาม ๆ กัน…

ที่จริงถ้าไปส่องปัจจัยพื้นฐานของ SAF ก็ไม่ขี้เหร่นะ รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี…โดยปี 2563 มีรายได้รวม 182.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.45 ล้านบาท ถัดมาปี 2564 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 214.75 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 15.53 ล้านบาท

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวม 160.79 ล้านบาท เติบโต 5.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 160.79 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.02 ล้านบาท เติบโต 11.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.99 ล้านบาท

โดยรายได้ที่เติบโตเป็นผลมาจากการขายเหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับแม่พิมพ์ที่ยังเติบโต 10.53% ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากผลของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานสูงขึ้น แม้จะเริ่มเห็นปริมาณการขายที่เริ่มลดลงในส่วนของกลุ่มลูกค้าชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไปบ้างเล็กน้อย และการขายเหล็กเกรดพิเศษ  สำหรับเครื่องจักรกลทางวิศวกรรมยังเติบโต 4.14% ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 30.04%

ส่วนกำไรสุทธิที่เติบโตเป็นผลมาจากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น และการควบคุมต้นทุนการจัดจำหน่าย

ดังนั้นถ้า SAF ไม่สะดุดยอดหญ้าจนหัวทิ่มไปซะก่อน ปิดงบงวดปี 2565 ก็น่าจะเห็นกำไรปังอยู่หนา…

แต่น่าเสียดายที่ราคาหุ้นอุตส่าห์เปิดสวยแท้ ๆ ดันมาแผ่วปลายซะงั้น…

งานนี้คงได้เห็นคนไปนอนค้างเติ่งบนยอดดอยไม่น้อยทีเดียว

SAF จึงเป็นหุ้นที่ทำให้นักลงทุนปังและพังรับต้นปีกระต่ายในคราวเดียวกัน..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button