KTB ดีดแรง 3% โชว์กำไรปี 65 โต 56% สูงสุดกลุ่มแบงก์ โบรกอัพเป้าใหม่ 24 บ.
KTB ดีดแรง 3% ราคาแตะ 17.60 บ. โชว์กำไรปี 65 โต 56% สูงสุดกลุ่มแบงก์ รับตั้งสำรองลด-รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม โบรกแนะ “ซื้อ” อัพเป้าใหม่ 24 บ. จับตาไตรมาส 1/66 โตต่อ รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น-ค่าใช้จ่ายลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ม.ค.66) ราคาหุ้นธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ล่าสุด ณ เวลา 10:18 น. อยู่ที่ระดับ 17.60 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.92% สูงสุดที่ระดับ 17.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 456.82 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น KTB ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 24 บาท จากเดิม 23 บาท โดยกําไรสุทธิของ KTB ในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นถึง 64% เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าประมาณการของบล.กรุงศรี 9% แต่เป็นไปตาม consensus ทั้งนี้ กําไรที่ออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้เป็นเพราะ NIM และ non-NII ที่ดีกว่าคาด
ส่วนกําไรของ KTB ในปี 65 โตถึง 56% สูงสุดในกลุ่มธนาคาร ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการที่ ECL กลับมาอยู่ระดับปกติ โดย ECL ลดลงอย่างมากจาก 3.2 หมื่นล้านบาทในปี 64 เหลือ 2.2 หมื่นล้านบาทในปี 65 หลัง NPL ทรงตัวอยู่ที่ 3.5% ในขณะที่สัดส่วน coverage ratio อยู่ในระดับสูงที่ 165% ทั้งนี้ผู้บริหาร KTBประเมินอยากเห็น coverage ratio ในระยะยาวจะขยับเข้าใกล้ระดับ 130%
ทั้งนี้คาดว่ากําไรของ KTB จะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ประมาณ 24% ในปี 66 จากการขยายสินเชื่อ และ NIM ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการที่ KTB มุ่งเน้นขยายสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยลอยตัวให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อยประเภทที่ความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่โยงกับการจ่ายเงินเดือน ในขณะเดียวกัน KTB มีสัดส่วน CASA สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่กว่า 80% ของโครงสร้างเงินฝาก ทำให้เชื่อว่า KTB จะเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้อานิสงส์เต็มๆ จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และคาดว่าโมเมนตัมกําไรของ KTB จะเร่งตัวขึ้นทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน ได้ในไตรมาส 1/66 จากค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานลดลงตามฤดูกาล และ NIM เพิ่มขึ้นหลังมีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบในช่วงที่ผ่านมา