“จุรินทร์” ลุยยุโรปเจรจาทำ FTA ไทย-อียู หวังเพิ่มโอกาสทางการค้า
“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เตรียมยกคณะเยือนกรุงบรัสเซลส์ 25-26 มี.ค.นี้เพื่อพบกับคณะกรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป พร้อมตั้งเป้าเจรจาทำ FTA ไทย-อียู ซึ่งหากทำสำเร็จประเทศไทยจะได้ประโยชน์ เพิ่มโอกาสทางการค้ามากขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะนำคณะเดินทางไปเยือนกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม พบกับนายวัลดิส ดอมโบรฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป หรือ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการค้าของรัฐบาลสหภาพยุโรป ในวันที่ 25-26 ม.ค.2565 เพื่อพบและประชุมร่วมกันในการแสดงเจตจำนงทางการเมืองทั้งสองฝ่ายในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู)
ทั้งนี้ในเรื่องของ FTA ไทย-สหภาพยุโรป เป็นเรื่องที่คาดหวังกันมายาวนาน แต่ยังไม่บรรลุผล เพราะติดขัดเรื่องการเจรจามาตั้งแต่ช่วงปี 2557 ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้และตนเองจะมารับผิดชอบกระทรวงพาณิชย์ โดยในครั้งนี้ จะเป็นตัวแทนประเทศไทยแจ้งความจำนงว่าประเทศไทย รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ของไทย มีความพร้อมที่จะทำ FTA ระหว่างไทย-สหภาพยุโรป ถ้าสหภาพยุโรปเห็นพ้องต้องกัน แต่ละประเทศจะได้กลับมาดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของแต่ละประเทศ
ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประชุมและการเจรจาที่ผมจะเดินทางไป ซึ่งตั้งความหวังว่าจะสำเร็จ และจะได้เริ่มนับหนึ่ง FTA ไทย-อียู เพราะเป็น FTA ที่ภาคเอกชนมีความประสงค์และต้องการมานาน แต่ยังไม่บรรลุผล ถ้าประสบความสำเร็จ จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปได้มากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโอกาสทางการค้า จะส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีตัวเลขที่ดีขึ้น
ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศระบุว่า ในปี 2565 อียูเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 5 รองจากอาเซียน จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 41,038.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.95 ของการค้าไทยกับโลก
ทั้งนี้ไทยส่งออกไปอียู 22,794.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และแผงวงจรไฟฟ้า และนำเข้าจากอียู มูลค่า 18,243.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์