“ชัยยศ” มอง SET ไซด์เวย์ แนะดักเก็บ “อสังหา-ค้าปลีก”
“ชัยยศ จิวางกูร” มอง SET ไซด์เวย์ให้กรอบ 1,675-1,690 จุด ช่วงรอผลประชุมตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐศุกร์ และการประชุมเฟดช่วงสัปดาห์หน้า แนะกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (25 ม.ค. 66) ว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้อาจแกว่งตัวไซด์เวย์กรอบบริเวณ 1,675-1,690 จุด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการชะลอตัวลง หลังจาก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศงบออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ พร้อมกับนักลงทุนรอผลประชุมตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในช่วงวันศุกร์นี้ (27 ม.ค. 66) และรอติดตามผลการประชุมเฟดในช่วงสัปดาห์หน้าว่าจะออกมาในทิศทางใด
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยภาพรวมระยะยาวช่วงปี 66 มองว่ายังอยู่ในทิศทางบวก เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยยังโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ก็จะทำให้ตัวฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังไหลเข้ามาได้
สำหรับประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. คาดการณ์ว่าผลการประชุมในวันนี้น่าจะมีการปรับขึ้นราว 0.25% เป็น 1.50% ทั้งนี้ถ้าดูจากโมเมนตัมด้านตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะลดลง เพราะตัวแก๊สที่เป็นตัวผลิตไฟฟ้ามีการขยับลดลงมา จึงมองว่าตัวต้นทุนโรงไฟฟ้าในปีนี้อาจมีการขยับลง ซึ่งจะทำให้ตัวเงินเฟ้อในประเทศไทยปรับลงเช่นกัน เพราะตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศประมาณ 50-60% มาจากกลุ่มไฟฟ้า, น้ำมัน และขนส่ง และคาดว่าการประชุมเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ น่าจะป็นการปรับครั้งสุดท้ายสำหรับปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามแนะรอจับตาดูอีกครั้งว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะออกมาในทิศทางใด
อย่างไรก็ตามหุ้นที่มองว่าจะได้รับผลบวกต่อปัจจัยที่กล่าวข้างต้นยังคงเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะในส่วนของตัวดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ คาดว่าตัวรายได้จากดอกเบี้ยของธนาคารมีโอกาสที่จะขยับขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอติดตามอีกครั้งว่าราคาหุ้นของกลุ่มธนาคารจะมีการอัพไซด์หรือไม่
ส่วนหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ มองว่ายังไม่ได้รับผลบวกจากประเด็นดังกล่าว เนื่องจากยังมีต้นทุนสูง ทว่าหากตัวเลขของเงินเฟ้อลดลง โอกาสที่ “กนง.” ก็จะมีโอกาสชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบถัดไป ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ดังนั้นให้รอจังหวะทำการเข้าซื้อ
ขณะที่กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจน่าในช่วงระยะสั้นนี้ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก แต่ก็ให้รอดูจังหวะในการเข้าซื้อ