“ธนกร” ยันยุบสภาแน่! โว “รวมไทยสร้างชาติ” พร้อมลุยสนามเลือกตั้ง

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาระบุว่า  หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ดอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้ลงพื้นที่ทำให้กระแสดีขึ้นมาก จึงทำให้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บางพื้นที่ทับซ้อนอยู่หลายจุด แต่ทางพรรคฯมีกติกาอยู่แล้วว่าจะเลือกคนที่ประชาชนไว้วางใจสูงสุด

ส่วนกระแสข่าวว่านายกฯจะยุบสภาในวันที่ 15 มี.ค.66 นั้น  ขณะนี้เท่าที่มีข้อมูลเบื้องต้น คือต้องปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อน และการตัดสินใจยุบสภาเป็นของนายกฯ ซึ่งคิดว่ามีความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ยุบสภาฯ แน่ ๆ อยู่แล้ว ดังนั้น ส.ส.จึงย้ายพรรคได้ตามปกติ ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ สมาชิกกลุ่มสามมิตร จะย้ายมากับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ก็เป็นไปได้

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวว่า การที่ กกต. จะใช้เวลาในการเตรียมการเลือกตั้ง 45 วัน เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติยังฟอร์มทีมไม่เสร็จ นายธนกร ชี้แจงว่า ไม่จริง พรรครวมไทยสร้างชาติมีระบบพรรคที่มีความเข้มแข็ง การบริหารกลไกภายใน ฉะนั้นมีความพร้อมหมดแล้ว ทั้งนโยบายพรรคและว่าที่ผู้สมัครส.ส. และจะทยอยเปิดนโยบายต่างๆ ออกมาทีละชุด เรามีทีมเศรษฐกิจที่เก่ง เชื่อว่าหากเปิดตัวออกมาประชาชนจะเซอร์ไพรส์ และหลังจากที่นายกฯ ขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ชุมพรแล้ว พรรคกำลังคุยกันอยู่ หลังจากนี้นายกฯ จะใช้เวลานอกราชการในมิติทางการเมือง จะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือว่าที่ผู้สมัครส.ส. จะจัดเวทีปราศรัยที่ 2 ของพล.อ.ประยุทธ์ เบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่จ.เพชรบุรี

กรณีที่ถูกมองว่ามีการแย่งผลงานการบริหารจัดการน้ำ และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล นายธนกร มองว่า นโยบายหลายอย่างที่รัฐบาลทำ การที่พรรคการเมืองหลายพรรค นำไปเป็นนโยบาย คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่ช่วยกันมาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กำลังจะชี้ให้เห็นก็คือ นโยบายหรือโครงการต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้อนุมัติคนสุดท้าย ดังนั้นจึงไม่เป็นไปตามข่าวที่พาดหัว และไม่ใช่เป็นการแย่งชิงผลงานอะไร

อย่างไรก็ดี วันนี้หลายนโยบายนายกฯเป็นผู้ดำเนินการ และอนุมัติเป็นคนสุดท้าย ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่นายกฯ ทำไปประชาชนรู้หมดใน 8 ปีที่ทำมา วันนี้คงไม่ต้องบอกแล้ว เพราะในใจของประชาชนรู้อยู่แล้ว แม้บางครั้ง อาจจะมีค้างคาอยู่บ้าง และนายกฯ เคยบอกแล้วว่าเราจะทำต่อในสิ่งที่ค้างคาอยู่เพื่อให้สมบูรณ์และมีความยั่งยืน