ผู้ถือหุ้น CEYE ไฟเขียวซื้อ ZEALOTS-UMC ลุ้นปิดดีลไตรมาส 1
ผู้ถือหุ้น CEYE อนุมัติซื้อกิจการ ZEALOTS และ UMC คาดดีลแล้วเสร็จ Q1/66 นี้ พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Post Production - Advertising Agency
นายอภิชาติ ชินวรรโณ ประธานกรรมการบริษัท, นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะกรรมการ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE หนึ่งในผู้นำครีเอทีฟโฆษณา และงานโปรดักส์ชั่นครบวงจร จัดงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ครั้งที่ 1/2566 ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์ ในการเข้าลงทุนในธุรกิจ Post-Production ภาพเคลื่อนไหว ของบริษัท ซีอาล๊อต บูทีค โพสท์โปรดักชั่น จำกัด (ZEALOTS) และธุรกิจตัวแทนโฆษณา (Advertising Agency) ของบริษัท เออเบิร์น มีเดีย ครีเอชั่น จำกัด (UMC) ด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) เพื่อเป็นการชำระเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของทั้งสองบริษัท และขยายโอกาสทางธุรกิจต่อไป
พร้อมกันนี้ยังนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ CEYE สนับสนุนแผนการเติบโตของบริษัทฯ ให้เป็น Total Creative Marketing & Production Solutions ที่สมบูรณ์ และ Digitizing services ไปกับโลกเทคโนโลยีและความต้องการของกลุ่มลูกค้าใน Segment อื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการรับโอนกิจการทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2566
สำหรับการลงทุนในธุรกิจ Post-Production ภาพเคลื่อนไหว CEYE จะรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท ซีอาล๊อต บูทีค โพสท์โปรดักชั่น จำกัด (ZEALOTS) ซึ่งถือหุ้นโดย (1) นายพงษ์สินธุ์ จักรสมิทธานนท์ (2) นางกนกวรรณ จักรสมิทธานนท์ (3) นางสาววันทนา นุชตาล โดยจะชำระค่าตอบแทน 65 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CEYE จำนวนไม่เกิน 14,705,882 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในรูปแบบการเสนอขายหุ้น PP
ส่วนการลงทุนในธุรกิจตัวแทนโฆษณา (Advertising Agency) โดยการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท เออเบิร์น มีเดีย ครีเอชั่น จำกัด (UMC) ซึ่งถือหุ้นโดย (1) นายวันชนะ จิตต์การงาน (2) ร้อยเอกหญิง นงนภัส เอกสาร (3) นางสาววศินี แว่นเกตุ บริษัทจะชำระค่าตอบแทน 35 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 7,918,552 หุ้น
โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ แล้ว ZEALOTS จะถือหุ้นของบริษัทคิดเป็น ร้อยละ 5.03 และ UMC จะถือหุ้นของบริษัทฯ คิดเป็นร้อยละ 2.71 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (ภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทฯ)