CPF กางแผนปี 66 รุกติดตั้งโซลาร์เซลล์ “ฟาร์ม-โรงงาน” กว่า 180 แห่ง มุ่งลดก๊าซเรือนกระจก
CPF เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์ม และโรงงานแปรรูปอาหาร 180 แห่ง ภายในปี 66 ตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 65 เมกะวัตต์ในปีนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลิตอาหารปลอดภัย เพื่อลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทส่งเสริมและมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ ประกอบด้วยโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop) โซลาร์ฟาร์ม (Solar Farm) และโซลาร์บนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานและฟาร์มเลี้ยงสัตว์
โดยในปี 2566 มีแผนเร่งดำเนินการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในฟาร์มและโรงงานมากกว่า 180 แห่ง กำลังผลิตรวม 65 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในปี พ.ศ. 2568 เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 100 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้ว 2 เฟส โดยเฟสแรกได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงาน จำนวน 27 แห่งเฟสสอง ติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ 2 แห่ง และโซลาร์ฟาร์ม 10 แห่ง รวม 12 แห่ง เฟสสาม อยู่ระหว่างการออกแบบเพื่อทำการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มบนทุ่นลอยน้ำ และบนหลังคาโรงงาน 67 แห่ง และในเฟสที่สี่มีแผนที่จะดำเนินการมากกว่า 80 แห่ง คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี พ.ศ. 2567 รวมทั้ง 4 เฟส จำนวนประมาณ 180 แห่ง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตรวมประมาณ 44,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
“ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต นอกจากจะช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการผลิตพลังงานสะอาดแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของฟาร์มและโรงงานในโครงการฯ ในการซื้อไฟฟ้า เมื่อติดตั้งครบทั้ง 4 เฟส” นายพีรพงศ์ กล่าว
นายพีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในฟาร์มและโรงงานของซีพีเอฟ เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งปัจจุบัน ซีพีเอฟมีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน 30% ของการใช้พลังงานทั้งหมดของบริษัท ซึ่งประกอบด้วย พลังงานจากก๊าซชีวภาพ 30% พลังงานชีวมวล 68% และพลังงานแสงอาทิตย์ 2% ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 600,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 64 ล้านต้น คิดเป็นพื้นที่ 320,000 ไร่ โดยหลังจากที่บริษัทดำเนินโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะทำให้สัดส่วนพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเป็น 4%
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ประกาศความมุ่งมั่นต่อองค์กร Science Based Target initiatives (SBTi) กำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2593 เพื่อจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไว้ให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยล่าสุดได้ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100 % สำหรับกิจการในประเทศไทยบรรลุผลตามเป้าหมาย Coal Free 2565 มุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนจาก 30% เป็น 50% ในปี พ.ศ 2573 และเพิ่มเป็น 100% ในปีพ.ศ. 2593