ครม. ขยายเวลาดอกเบี้ยผ่อนปรน “บ้านคนไทยประชารัฐ” อีก 1 ปี
ครม. ขยายเวลาให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน Pre Finance-Post Finance โครงการ "บ้านคนไทยประชารัฐ" บนที่ดินราชพัสดุ ไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุด 2 ม.ค.67 จากเดิมสิ้นสุด 3 ม.ค.66
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการดำเนินโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” บนที่ดินราชพัสดุ และมีมติขยายเวลาการให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (Pre Finance และ Post Finance) ออกไปอีก 1 ปี โดยจะสิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค.67 จากเดิมที่สิ้นสุด 3 ม.ค.66 เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยคงเดิม โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ปฏิบัติตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และมติ ครม. อย่างเคร่งครัด
สำหรับโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ จำนวน 2,757 ยูนิต เพื่อให้ประชาชน 3 กลุ่มเป้าหมายได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง คือ 1.ผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2.ผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน และ 3.ประชาชนทั่วไป โดยเป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย ที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตร.ม. ในระดับราคา 3.5-7 แสนบาท ซึ่งเป็นโครงการการผ่อนชำระสู่การเช่าระยะยาว กรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยและผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการ
โดยมี 2 มาตรการสินเชื่อ ดังนี้
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) กำหนดอัตราดอกเบี้ย คือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1-4 ที่ 2.75% ต่อปี หลังจากนั้น กรณีรายย่อย MRR – 0.75% ต่อปี หรือกรณีสวัสดิการหักเงินเดือน MRR – 1% ต่อปี มีระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปีโดยมีการผ่อนปรนการกำหนดอัตราส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้/ราย/เดือน (DSR) หรืออัตราส่วนภาระผ่อนชำระหนี้รวมต่อรายได้สุทธิรวม (DIR) ตามที่ธนาคารกำหนด
- สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) กำหนดอัตราดอกเบี้ย คือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1-3 ที่ 3% ต่อปี หลังจากนั้น MLR – ไม่เกิน 1% ต่อปี ระยะการกู้ ไม่เกิน 5 ปี เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ และ/หรือ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัดที่เข้าร่วมพัฒนาโครงการ
สำหรับโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ มีทั้งหมด 8 พื้นที่ คือ ชลบุรี, เชียงใหม่, เชียงราย, ขอนแก่น, ลำปาง, นครพนม, ประจวบคีรีขันธ์ และอุดรธานี ได้ดำเนินการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว 1 พื้นที่ คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนพื้นที่ใน 7 จังหวัดที่เหลือที่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้
ดังนั้น ที่ประชุม ครม.วันนี้ จึงมีมติอนุมัติให้กรมธนารักษ์ นำที่ราชพัสดุที่รองรับการดำเนินโครงการดังกล่าวใน 7 จังหวัด เดินหน้ารองรับการดำเนินโครงการสำคัญอื่นๆ ตามนโยบายของรัฐบาล หรือนำไปบริหารจัดการหรือพัฒนาจัดหาประโยชน์เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐต่อไป เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และรัฐมีการพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน