AUCT ดาวเด่น! จ่อรับทรัพย์ปี 66 ลุ้นรถยึดเข้าประมูล 1.8 แสนคัน

ส่อง 3 หุ้นเด่น คาดได้รับอานิสงส์จากภาพรวมธุรกิจเช่าซื้อรถถยนต์ ประเมินปี 66 จะมีรถไหลเข้าสู่ลานประมูล 1.5-1.8 แสนคัน หลังมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทยอยหมดลง ชู AUCT รับเต็มดันรายได้และกำไรเติบโตแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดการประมูลรถรายใหญ่ เปิดเผยว่าจากภาพรวมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในปี 2566 คาดจะขยายตัวมากขึ้นหลังโควิด-19 คลี่คลายลง และรถยนต์ไฟฟ้าอีวีเข้ามากระตุ้นตลาดให้ตื่นตัว ทำให้สถาบันการเงินแข่งกันปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อมากขึ้น จึงมองว่าภาพรวมตลาดรถยึด และการคืนรถสู่ธุรกิจลานประมูลน่าจะคึกคักตามอุตสาหกรรมรถยนต์ไปด้วย

ทั้งนี้ ทิศทางปี 2566 ประเมินว่าจะมีรถไหลเข้าสู่ลานประมูลระดับปกติประมาณ 1.5-1.8 แสนคันจากปีที่แล้วที่มีรถยึดเข้ามาประมาณ 1.2 แสนคัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากในปีที่ผ่านมามาตรการช่วยเหลือของ ธปท.ยังมีอยู่ จึงทำให้สถาบันการเงินชะลอการยึดรถ กระทั่งมาตรการสิ้นสุดลงในปีนี้ จะส่งผลให้การยึดรถและรถที่เป็นหนี้เสียไหลเข้าลานประมูลมากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวที่กลับมา บริษัทรถเช่าก็อาจจะปล่อยรถเข้าลานประมูลมากขึ้น

ด้าน นายชุมพล กิตติชัยสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอินเตอร์ การประมูล จำกัด (SIA) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตลาดรถยึดเข้าลานประมูลทั้งระบบปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 20-30% เมื่อเทียบจากปี 2565 หลังจากมาตรการเยียวยาของภาครัฐที่มีการพักชำระหนี้กำลังจะหมดลงในกลางปีนี้ ส่งผลให้แนวโน้มรถยึดจะเพิ่มขึ้นในปีนี้แน่นอน

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าทำยอดประมูลขายรถเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากเดิมจะมียอดอยู่ที่ 2,500-3,000 คันต่อเดือน เมื่อเทียบจากปีก่อนไม่ถึง 2,000 คันต่อเดือน โดยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นคัน ซึ่งมีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยตั้งเป้ากำไรหลังจากหักภาษีแล้วอยู่ที่ 130 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 85-90 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากอิงข้อมูลจาก บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในปี 2566 จะมีรถไหลเข้าสู่ลานประมูลกลับเข้าสู่ระดับปกติประมาณ 1.5-1.8 แสนคัน หลังมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทยอยหมดลงทำให้การยึดรถและรถที่เป็นหนี้เสียไหลเข้าลานประมูลมากขึ้น

เบื้องต้นเชื่อว่าบริษัทที่จะได้ประโยชน์จากการเข้าประมูลรถ อาทิ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT ซึ่งเป็นผู้จัดการประมูลทรัพย์สินทุกประเภท โดยเฉพาะประมูลรถยนต์  ตามด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ผู้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์

ขณะที่ทางด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด ประเมินแนวโน้มรายได้และกำไรปี 2566 ของ AUCT โดยคาดรายได้อยู่ที่ 997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณรถเข้าประมูลจะกลับเข้าสู่ปกติ

นอกจากนี้ประเมินอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะเร่งขึ้นมาสู่ระดับ 54% จากปี 2565 คาดที่ระดับ 50.3% เป็นผลของ Economies of Scale และการปรับเพิ่มค่าดำเนินการ พร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ AUCTBID เข้าประมูลอสังหาริมทรัพย์ และ AUCT Shopping จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการปี 2566

เช่นเดียวกับ บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่าปี 2566 คาดว่าทิศทางรายได้และกำไรของ AUCT จะทยอยเป็นขาขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนในเกือบทุกไตรมาส 1) ผลประกอบการที่เป็นฐานต่ำในครึ่งแรกของปี 2565 (2) การทยอยเพิ่มขึ้นของรถยึดอย่างต่อเนื่อง (3) การรับรู้อัตราค่าดำเนินการใหม่เต็มปี และ 4) อัตรากำไรขั้นต้นที่จะขยายตัวขึ้นจาก Economies of scales โดยรวมคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2566 จะเติบโต 10.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 263 ล้านบาท

ด้าน บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า KKP ประเมินกำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566 จะทรงตัวจากสำรองฯ ที่ยังทรงตัวสูงจากขาดทุนรถยึดที่เพิ่มขึ้น และ NIM ที่ลดลงจากการที่ต้องเร่งหาเงินฝากประจำมากขึ้นเพื่อเป็นการ Fix อัตราดอกเบี้ยท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

อีกทั้ง ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ระบุว่า มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 2566 เพิ่มขึ้น 3% เพื่อสะท้อนคำแนะนำใหม่ โดยปรับสินเชื่อเพิ่มขึ้น และปรับ credit cost ลดลง ทำให้ประเมินกำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

Back to top button