TLI คงต้องรอกองทุนเข้า

บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI เป็นอีกหุ้นที่มีนักลงทุนถามเข้ามาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ราคาหุ้นลงมาทำ All Time Low ในแต่ละครั้ง


บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI

เป็นอีกหุ้นที่มีนักลงทุนถามเข้ามาค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะช่วงที่ราคาหุ้นลงมาทำ All Time Low ในแต่ละครั้ง ว่าควรจะ “ซื้อ” “ถือ” หรือ “ขาย” (ตัดขาดทุน)

คำตอบที่บอกกลับไป

จะอ้างอิงกับบทวิเคราะห์ของโบรกฯ นั่นแหละ

คือ ซื้อถือลงทุนยาว ค่อย ๆ เก็บไปทีละไม้

ประเด็นของปัญหาคือ คำแนะนำนี้ ตอบกลับไปตั้งแต่ช่วงที่ราคาลงมาที่ 15 บาท 14 บาท กระทั่งลงไปจุดต่ำสุดที่ 13.30 บาท ซึ่งเป็น All Time Low ล่าสุด

จนขณะนี้ราคาหุ้นค่อย ๆ ขยับขึ้นมาที่ 14 บาท (+/-) และยังคงต่ำกว่าราคาไอพีโอที่ 16 บาท อยู่ถึง 12-13%

อย่างที่เคยเขียนบอกไปว่า หุ้นกลุ่มประกัน (ชีวิต)

ราคาหุ้นจะเล่นไปตามปัจจัยผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (10 ปี) และรวมถึงของไทยด้วย

น้ำหนักการซื้อเพื่อเก็งกำไรจะอยู่ที่ปัจจัยดังกล่าวแทบจะเป็นหลัก

เช่นเดียวกับหุ้น บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA จะเคลื่อนไหวไปตามบอนด์ยีลด์ด้วยเช่นกัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว

หุ้นกลุ่มประกันชีวิตยังมีปัจจัยบวกที่จะเข้ามาสนับสนุน นอกเหนือจากบอนด์ยีลด์อีกหลายปัจจัย

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้

หุ้น “กลุ่มประกัน” จะมีสภาพคล่องต่ำ มูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก

และหุ้นกลุ่มประกันส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทประกัน “วินาศภัย” มากกว่า

นักลงทุนที่เข้ามาซื้อ จะเป็นกองทุน หรือนักลงทุนสถาบัน รายใหญ่ และจะซื้อถือยาว เพื่อดักกินเงินปันผล เพราะผลตอบแทนเงินปันผลของ “บริษัทประกันวินาศภัย” หลายหุ้น จะค่อนข้างสูงเฉลี่ย 4-6% เช่น BKI THIP NSI MTI

กระทั่งการเข้ามาซื้อขายในตลาดของหุ้น BLA

ทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสนใจหุ้นกลุ่มนี้มากขึ้น

และพยายามศึกษาเกี่ยวกับหุ้นธุรกิจประกันชีวิต

รวมถึงหุ้น “นายหน้าประกัน” รายใหญ่สุดของไทย คือ TQM (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา) ที่เข้ามาช่วยให้หุ้นกลุ่มประกันมีความคึกคัก

ย้อนกลับมาที่ TLI

เรื่องที่ราคา (ยัง) หลุดไอพีโอ และกองทุนขนาดใหญ่ไม่พอใจเรื่องการจัดสรรหุ้นและราคาที่ได้รับนั้นตั้งแต่ตอนไอพีโอ

เรื่องนี้น่าจะผ่านและจบไปแล้ว

ส่วนตอนนี้คงต้องมาดูว่า แล้วต่อไปราคาหุ้นประกันชีวิตแห่งนี้จะขยับขึ้นไปได้ต่อเนื่องหรือไม่

หากดูจากประมาณการผลกำไรของนักวิเคราะห์

ต่างคาดว่ากำไรไตรมาส 4/65 จะออกมาดี จากเบี้ยประกันรับที่ดีขึ้น และ Combine Ratio ผ่อนคลายลง ทำให้กำไรทั้งปี 2565 ของ TLI น่าจะอยู่ประมาณ 9 พันล้านบาท ถึง 1.05 หมื่นล้านบาท

หากตัวเลขออกมาตามนี้

ราคาหุ้นน่าจะให้ผลเชิงบวกบ้าง

สมมติว่า TLI มีกำไร 1 หมื่นล้านบาท (มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 30% ของกำไรสุทธิ)

สมมติอีกว่า เมื่อกำไร 1 หมื่นล้านบาท แบ่งปันผล 30% หรือคิดเป็นเงิน 3 พันล้านบาท เมื่อนำเงินปันผลดังกล่าวมาหารกับจำนวนหุ้น และราคาหุ้นปัจจุบัน

จะได้อัตราผลตอบแทนประมาณ 2%

ถือเป็นตัวเลข Dividend yield ยีลด์ที่ใกล้เคียงกับ BLA

แต่แน่นอนล่ะว่า นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับ Capital gain มากกว่า ยีลด์

ก็ต้องมาดูว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 จะออกมาเซอร์ไพรส์ หรือมากกว่าคาดหรือไม่

เพราะหากมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด น่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนต่าง ๆ

แต่หากเป็นไปตามคาดหรือต่ำกว่าคาด

ราคาหุ้นอาจย่อตัวลงหรือไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากราคาปัจจุบันมากนัก

แต่เมื่อดูจากไทม์ไลน์ของ TLI ในปีนี้ที่เป็นปัจจัยบวก

นักวิเคราะห์คาดกันว่า กำไรน่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 15-20%

ส่วนการเข้าคำนวณ SET50 นั้น ปัจจุบัน TLI มีมาร์เก็ตแคประดับ 1.58 แสนล้านบาท น่าจะได้เข้า SET50 ในรอบครึ่งหลังของปีนี้แน่นอน

ถึงเวลานั้น น่าจะมีการเข้ามาเก็งกำไร

รวมถึงการเข้ามาของกองทุนที่ต้องลงทุนในหุ้นที่อ้างอิงดัชนี

ทำให้อาจจะพอเห็นราคาหุ้นกลับมาบริเวณ 16 บาทอีกครั้ง

Back to top button