THCOM เปิดไทม์ไลน์ยิง 3 ดาวเทียม รับรู้รายได้ทันทีปี 68
THCOM กางไทม์ไลน์ปี 68 ยิงดาวเทียม 2 ดวง ส่วนปี 70 ยิงเพิ่มอีก 1 ดวง หนุน Capacity แตะ 120 กิกะบิต ย้ำสถานะการเงินแกร่ง งบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนคาร์บอนเครดิตตั้งเป้ารายได้เริ่มเข้ามาในปีหน้า
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทาง Kaohoon TV Online และสถานีวิทยุกระจายเสียง ขส.ทบ. FM 102 MHz ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ยังเติบโตจากสามธุรกิจหลัก 1.ธุรกิจหลัก คือดาวเทียม (EO), 2. ธุรกิจ LEO เป็นธุรกิจดาวเที่ยมวงโคจรต่ำ หรือ LEO (Low Earth Orbit Satellite) ของโกลบอลสตาร์ที่ได้เซ็นสัญญากันไปแล้ว พร้อมได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทไทยคมมีหน้าที่ 2 ส่วนในการให้บริการลูกค้า และเป็นตัวแท่นผู้จัดจำหน่ายเทคโนโลยีในประเทศไทยซึ่งจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/66 นี้ อย่างไรก็ตามทาง THCOM ได้เปิดขายล่วงหน้าไปแล้วในส่วนของความปลอดภัยทางด้านเดินทะเลให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดบนเสื้อชูชีพ โดยจะเป็นแห่งรายได้ใหม่เข้ามาในปีนี้
และ 3.ธุรกิจสเปซ เทค เริ่มมีการให้บริการไปแล้วโดยมุ่งไปที่ดาต้าจากภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ประโยชน์ เช่นการวัดค่าคาร์บอนในป่าได้โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม 1 ในธุรกิจที่กำลังพัฒนา และธุรกิจโดรนเกษตรมีการพัฒนาในส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยทางบริษัทฯมีการเข้าไปร่วมทุนกับ PTTEP โดยจะมีการเดินหน้าในการพัฒนาต่อไป เพราะเชื่อว่าอีกใน 5 ปีข้างหน้าธุรกิจโดรนจะมีความสำคัญมากในหลายๆธุรกิจ และหลายอุตสาหกรรม
นายปฐมภพ กล่าวอีกว่า ในส่วนดาวเทียมดวงใหม่ทาง THCOM หลังก็ยังคงให้บริการในตลาดประเทศไทย แต่อย่างไรก็ดีทางบริษัทฯก็ยังให้ความสำคัญกับตลาดประเทศอินเดีย เนื่องจากมีการให้บริการมาอย่างยาวนาน 15 ปีแล้ว โดยการบริการยังเป็นตัวดาวเทียมหัก ส่วนดาวเทียม LEO จะวางให้กับพาร์ทเนอร์ที่จะให้บริการในประเทศไทยซึ่งเจ้าแรกก็โกลบอลสตาร์ และจะมีเจ้าอื่นๆ เข้ามาต่อไปเพราะมีการเจรจาอยู่
ส่วนธุรกิจเกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิตทางบริษัทไทยคมจะเป็นผู้รับรอง โดยจะใช้จากภาพถ่ายดาวเทียว ร่วมด้วย AI กับ ML ในการมาประมวลภาพถ่ายเพื่อให้ได้ค่าปริมาณคาร์บอนที่ดูดทรัพย์ในป่านั้นๆ ไม่ต้องใช้คนไปติดตั้งอุปกรณ์ใดๆเลย เพียงคำนวณจากดาวเทียม ซึ่งสามารถทำได้เป็นหมื่นไร่ แสนไร่ ล้านไร่ ได้เลย ขณะนี้มีการทดลองการสำรวจมีความแม่นย้ำแล้วกว่า 90% และทาง THCOM ได้มีการรับรองทั้งในประเทศและต่างประเทศในที่อเมริกา โดยหากทางอเมริกามีการรองรับการรับรองแล้วทางผู้ประกอบการที่มีป่าที่อยากให้ทาง THCOM วัดให้เพื่อสามารถนำไปซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้เลย เพราะTHCOM สามารถออกใบรับรองคาร์บอนเครดิต สำหรับในส่วนของคาร์บอนเครดิตตั้งเป้ารับรู้รายได้เข้ามาในปีหน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทมีแผนยิงดาวเทียมดวงเล็กขึ้น 2 ดวง และเตรียมยิงดาวเทียมใหญ่ในปี 2570 ส่งผลให้บริษัทมี สมรรถนะของโครงข่าย (Capacity) รวม 120 กิกะบิต โดยการก่อสร้างดาวเทียมดวงเล็กใช้เวลาประมาณ 2 ปี และดาวเทียมดวงใหญ่ใช้เวลาก่อนสร้าง 4 ปี ซึ่งบริษัทจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
ส่วนงบการลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน เพราะปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดเพียงพออยู่ที่ระดับ 5.8 พันล้านบาท อีกทั้งไม่ค่อยมีหนี้สินเยอะ จึงทำให้มีรูมที่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้
ด้านผลประกอบการงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.21 ล้านบาท ลดลง 70.61% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 143.64 ล้านบาท และรายได้อื่นอยู่ที่ 49 ล้านบาท ลดลง 33.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 74 ล้านบาท อีกทั้งยังบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าของอุปกรณ์ดาวเทียมอยู่ที่ 259 ล้านบาท สืบเนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมด้านความต้องการบริการบรอดคาสต์โดยทั่วไปที่ลดลง ประกอบกับความล่าช้าในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมในต่างประเทศจากกระบวนการที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้การขายช่องสัญญาณล่าช้ากว่าแผนธุรกิจเดิม
ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสะสมเป็นเงินสด 0.30 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 24 ก.พ.66 และกำหนดจ่าย 19 เม.ย. 66