หุ้นค้าปลีกร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 78 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง 'Black Friday' ชะลอตัวลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ และก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (30 พ.ย.) ที่ 17,719.92 จุด ลดลง 78.57 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,108.67 จุด ลดลง 18.85 จุด หรือ -0.37% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.41 จุด ลดลง 9.70 จุด หรือ -0.46% ตลอดเดือนพ.ย. ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งนี้ 0.3%, ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 1.1%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังจากมีรายงานเบื้องต้นว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกในช่วง ‘Black Friday’ ซึ่งเป็นเทศกาลจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐปรับตัวลดลง โดยข้อมูลจาก ShopperTrak ระบุว่า ยอดขายในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า และ Black Friday อยู่ที่ 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ หุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลง 1.8% หุ้นเมซี อิงค์ ดิ่งลง 2.3% หุ้นเออร์แบน เอาท์ฟิทเตอร์ส ร่วงลง 5.3% หุ้น Amazon ปรับตัวลง 1.3% หุ้นโฮม ดีโปท์ ร่วงลง 2.4% และหุ้นสแทพเพิลส์ ดิ่งลง 1.9%
นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.
สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกี่ยวกับการรวมเงินหยวนเข้าตะกร้าเงินสกุล SDR ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนนั้น ผลการประชุมระบุว่า ที่ประชุม IMF มีมติอนุมัติให้นำสกุลเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ของ IMF โดยให้มีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้หยวนได้รับการปรับยกสถานะในเวทีการเงินโลก เทียบเท่ากับดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยนที่ได้รับอนุมัติให้รวมไว้ในตะกร้า SDR ก่อนหน้านี้
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังจากที่ ECB ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และค่าใช้จ่ายด้านก่อสร้างเดือนต.ค.