WTI ร่วงอีกเกือบ 3% กังวลขึ้นดอกเบี้ย ฉุดดีมานด์หาย
WTI ร่วงยาว 4 วัน! ลงต่อเกือบ 3% มาปิดที่ 76.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้รับแรงกดดันจากความกังวล “เฟด” อาจขึ้นดอกเบี้ย คาดกระทบความต้องการใช้ชะลอตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (17 ก.พ.66) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 2.74% ปิดที่ 76.34 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.2% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.51% ปิดที่ 83 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 3.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันทรุดตัวลง หลังจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดได้ทำลายความหวังที่ว่า เฟดอาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. และระบุว่า จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานในการควบคุมเงินเฟ้อ
ส่วนนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า เฟดต้องเตรียมพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
บรรดานักลงทุนวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50%