ไทยพาณิชย์กับยุทธศาสตร์ ‘ดาวเหนือ’
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง กำลังแสวงหาพันธมิตรเพื่อก้าวสู่ Virtual Bank เพื่อหวังตอบโจทย์โอกาสธุรกิจการเงินแห่งโลกดิจิทัล
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง กำลังแสวงหาพันธมิตรเพื่อก้าวสู่ Virtual Bank หรือ “ธนาคารไร้สาขา” เพื่อหวังตอบโจทย์โอกาสธุรกิจการเงินแห่งโลกดิจิทัลที่อีกไม่นานนับจากนี้จะกลายเป็นอีกเมกะเทรนด์โลก
แต่ “ธนาคารไทยพาณิชย์” ประกาศตัวชัดเจนว่าไม่มีนโยบายเรื่องการเข้าสู่ Virtual Bank ด้วยเหตุว่าปัจจุบันมีความเป็นดิจิทัลและตอบโจทย์ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว แต่ทว่าบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในฐานะบริษัทแม่จะทำ Virtual Bank หรือไม่.!? ขึ้นกับการตัดสินใจของบริษัทแม่เอง..
“กฤษณ์ จันทโนทก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดวิสัยทัศน์ใหม่กับการเป็น Digital Bank with Human Touch เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาองค์กรให้เป็นธนาคารที่ดีขึ้น และด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์ธุรกิจการเงินโลกดิจิทัล “ธนาคารไทยพาณิชย์” จึงกำหนดยุทธศาสตร์ “ดาวเหนือ” เพื่อนำทางธุรกิจ ภายใต้แผน 3 ปี (ช่วงปี 2566-2568) ด้วย 3 เรื่องหลัก…
เริ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ จะก้าวสู่ “ดิจิทัลแบงก์” (Digital Banking) เต็มตัวและคงความเป็น Universal Bank ที่ใช้ดิจิทัลยกระดับบริการที่ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาต Virtual Bank และจากสถิติการใช้ดิจิทัลแบงก์ของลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร 52% และผ่านแอปพลิเคชันบริษัทเทคโนโลยีอยู่ที่ 22% และการก้าวสู่ดิจิทัลแบงก์ สิ่งที่ SCB ให้ความสำคัญ คือบริหารต้นทุนให้ต่ำลง จากการใช้เทคโนโลยีมาสร้างประสิทธิภาพการทำงาน
ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา ต้นทุนอยู่ที่ 42% ตามเป้าหมาย 3 ปี ต้นทุนจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 35-40%
ตามมาด้วยการเป็นธนาคารเบอร์หนึ่ง เรื่อง “บริหารความมั่งคั่ง” (Wealth Management) จากปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งเดิม ทั้ง HNW (High Net Worth) และ UHNW (Ultra High Net Worth) อยู่แล้ว แต่จากแนวโน้มการเติบโตกลุ่มชนชั้นกลาง ที่มีความมั่งคั่ง (Emerging Wealth) มากขึ้น จึงมีโอกาสสร้างการเติบโตมากยิ่งขึ้น
โดยประเมินว่า มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) ของชนชั้นกลางในเอเชียช่วงปี 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นจาก 2.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ธุรกิจธนาคารจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มนี้ 20,000-25,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือมากกว่าครึ่งของรายได้รวม
นั่นทำให้ “ธนาคารไทยพาณิชย์” ตั้งเป้าหมายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด Wealth Management ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันมีลูกค้า Wealth ประมาณ 400,000 ราย สินทรัพย์ AUM อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปี 2568 ลูกค้าจะเพิ่มเป็น 600,000 ราย สินทรัพย์ AUM อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท
สุดท้ายคือบริการไร้รอยต่อในทุกช่องทาง (Omni-Channel) แม้ว่าธนาคารไทยภพาณิชย์ จะก้าวสู่การเป็นดิจิทัลแบงก์ แต่มีความจำเป็นต้องมีบุคลากรและมีสาขารองรับ โดยจะให้บริการทุกช่องทางแบบไร้รอยต่อบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ทุก Touchpoints โดยช่วง 3 ปีนี้ เตรียมงบลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไว้ประมาณ 7,000-10,000 ล้านบาท
น่าสนใจว่า “ดาวเหนือ” จะนำทางธนาคารเก่าแก่ที่สุดของไทย ที่ยังยืนหลักปักหมุดจุดแข็งการเป็น Universal Bank ให้บริการครบวงจร ด้วย Touchpoints 766 สาขา จุดบริการ ATM กว่า 10,000 ตู้ พนักงานดูแลลูกค้ากว่า 10,000 คน ดิจิทัลแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน SCB EASY และ Connect มีฐานลูกค้า 17 ล้านราย ได้อย่างไร..!?
แหละที่สำคัญจะตอบโจทย์การเป็น Digital Bank with Human Touch ได้มากน้อยแค่ไหน..ถือว่าท้าทายเป็นอย่างยิ่ง..!!?