พาราสาวะถี

ไม่มีอะไรจะชัดไปกว่านี้อีกแล้วกับเอกสารที่อยู่ในมือ วิษณุ เครืองาม ในวันให้สัมภาษณ์นักข่าว ไม่รู้ว่าเป็นเจตนาที่จะให้เห็นหรือไม่ระมัดระวังกันแน่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตามไทม์ไลน์ที่ใช้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม. คงไม่มีอะไรที่จะหลุดไปจากนี้ เมื่อขีดเส้นเลือกตั้งไว้วันที่ 7 พฤษภาคม ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวันที่ 3 มีนาคมนี้ว่า กกต.จะใช้คนต่างด้าวมานับรวมในการคำนวณแบ่งเขตไม่ได้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะยุบสภาในวันที่ 15 มีนาคมนี้

ก่อนจะไปถึงตรงนั้น วันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันสุดท้ายของสมัยประชุมสุดท้าย ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำกัน เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.ที่รัฐบาลออกมาเลื่อนเวลาบังคับใช้กฎหมายอุ้มหายใน 4 มาตรา ด้วยเหตุผลเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับตำรวจที่จะต้องไปปฏิบัติงานตามกฎหมายใหม่ยังไม่พร้อม มีการร้องขอมาจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและ ครม.แบบนี้ ดูว่า ส.ส.จะให้ความร่วมมือส่งท้ายหรือเกิดโกลาหล องค์ประชุมไม่ครบเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่

ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่โคราชเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเร้าใจมากไปกว่าการไปตอกย้ำสโลแกนของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ พร้อมประกาศจ่ายเบี้ยคนชราเดือนละ 1,000 บาท พ่วงอัพบัตรคนจนพลัส หนีไม่พ้นประชานิยมเหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่ที่เป็นไฮไลท์ของเวทีปราศรัยหนนี้คือ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ดันหลุดโป๊ะ “ถ้าเราอยากได้รัฐบาลที่ดีให้เลือกพรรคไทยรักไทยของ..” ก่อนที่จะอุทานด้วยความตกใจ “เอ้ยไม่ใช่ ชิบหายแล้วกู รวมไทยสร้างชาติ”

ว่ากันว่าสิ่งที่ออกมาจากปากหนแรกมักจะเป็นความจริงที่อยู่ในจิตใต้สำนึก คงไม่แปลกกับการที่ด็อกเตอร์สามสีจะหลุดเช่นนี้ เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเส้นทางการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ หลังการกำเนิดเกิดขึ้นของพรรคไทยรักไทยจนกระทั่งถูกยุบ และแปรสภาพจนมาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบัน พรรคเก่าแก่ก็ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าผู้ชนะในสนามเลือกตั้งอีกเลย ยิ่งการเข้าสู่อำนาจในฐานะแกนนำรัฐบาลก็ต้องอาศัยการเล่นแร่แปรธาตุไปตั้งกันในค่ายทหาร จนกลายเป็นบาดแผลทำให้พรรคเสียศักดิ์ศรี ไร้ความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

ความจริงที่คนของพรรคเก่าแก่ยอมรับกันก็คือ ทุกอย่าง ทุกด้านไม่สามารถที่จะต่อกรกับพรรคของ ทักษิณ ชินวัตร ได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะงัดกลยุทธ์ใดมาต่อสู้ กระทั่งถูกรัฐประหารถึงสองครั้งในห้วงเวลาไม่ถึง 8 ปีก็ยังไม่สามารถที่จะลดทอนความนิยมที่มีต่อตัวบุคคลและพรรคซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับนี้ได้ มันจึงกลายเป็นผีของระบอบทักษิณซึ่งอุปโลกน์กันขึ้นมาที่ทั้งไตรรงค์และคนประชาธิปัตย์ หรืออาจจะเรียกได้ว่าพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งกลัวกันจนขึ้นสมอง เมื่อก้าวขึ้นสู่เวทีปราศรัยจึงมีหลุดที่จะพาดพิงกันได้ แต่เที่ยวนี้คนของเพื่อไทยไม่ติดใจที่จะโต้ตอบหรือเอาความแต่อย่างใด (ฮา)

ประสานักการเมืองรุ่นเก่าและพรรคเก่าแก่ สไตล์ถนัดคือการกล่าวหา จี้ให้สังคมเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ดี แต่ใครที่มาอยู่กับตัวเองแม้จะเคยอยู่กับพรรคที่เคยกล่าวหาว่าไม่ดีมาก่อนล้วนแต่เป็นคนดีทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าหลังการรัฐประหารของเผด็จการ คสช. นอกจากไม่ได้รับอานิสงส์ใด ๆ จากปลายกระบอกปืนแล้ว นับได้ว่าประชาธิปัตย์คือพรรคการเมืองที่ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เลยก็ว่าได้ แทนที่จะเป็นพรรคของทักษิณ เป็นเพราะขบวนการสืบทอดอำนาจที่ขออยู่ยาวใช้วิธีตกปลาในบ่อเพื่อนจนจะเกลี้ยงบ่ออยู่แล้วนั่นเอง

การพลิกลิ้นหลังเลือกตั้งปี 2562 จน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องบูชายัญในการหนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ต่อ มันส่งผลมาจนถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 จนถึงนาทีนี้กระแสที่ไม่กระเตื้อง มิหนำซ้ำ ยังถูกมองว่าน่าจะต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งหลังรัฐธรรมนูญปี 2540 ของพรรคเก่าแก่ มีเสียงเรียกร้องให้อดีตหัวหน้าพรรคที่เชื่อว่าน่าจะช่วยเรียกเรตติ้งพรรคคืนมาให้กลับมาช่วยพรรคหาเสียง แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันจากเจ้าตัวว่าจะหวนคืนเส้นทางการเมืองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ภายในสถานการณ์ที่กดดันและมองเห็นแล้วว่าอนาคตของประชาธิปัตย์หลังเลือกตั้งน่าจะเป็นพรรคขนาดเล็กนั้น บทสัมภาษณ์ของนายหัวชวนผู้มากบารมีในพรรคล่าสุด เป็นการยืนยันถึงผลกระทบที่พรรคเก่าแก่ได้รับจากพวกเดียวกันเองนั่นก็คือ การดึงตัว ส.ส.หรือผู้สมัครของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยอ้างว่ากอดคอรักกันเหนียวแน่น ในวันที่ถูกมองว่าสุมหัวกันสนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจ รวมทั้งพรรคเกิดใหม่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจด้วย

สิ่งที่จอมหลักการพูดถึงนั้น มันก็เป็นเรื่องที่อรชุนเคยบอกมาตลอด การทอดระยะเวลายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งให้นานที่สุด ก็เพื่อรอให้ข้อเสนอสุดท้ายที่ยากจะปฏิเสธบรรลุผลสำเร็จ ข้อมูลจากปากชวนช่วยยืนยันได้ว่าเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีการสาดกระสุนกันหนักขนาดไหน ระดับอดีตนายกฯ และประธานสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบัน คงไม่สักแต่ว่าให้ร้ายป้ายสีคนอื่นโดยปราศจากมูลความจริง เพียงแต่ว่าฝ่ายที่ถูกพาดพิงอาจจะใช้ข้อเรียกร้องแบบนักเลือกตั้งทั่วไปทำนั่นก็คือเรียกร้องหาหลักฐาน

ข้อมูลที่ชวนนำมาตีแผ่ให้เป็นข่าวก็คือ มีคนของพรรคได้รับข้อเสนอ 200 ล้านบาทในการย้ายพรรคเพื่อให้นำทีมกวาด ส.ส.ยกจังหวัด พร้อมปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรี แต่นักการเมืองรายนี้ใจแข็งกลับมาร่วมงานกับพรรคเก่าแก่ต่อ แต่สุดท้ายก็ไปอีกพรรคหนึ่งซึ่งต้องขีดเส้นใต้เพราะจอมหลักการบอกว่า “ได้ข่าวว่านายกฯ ดึงตัวไป นี่ไม่ทราบนะ ไม่ได้ถามนายกฯ” โดยสรุปจากสารที่สื่อออกมาก็คือ ส.ส.รายนี้ต้องเป็นคนสำคัญในภาคใต้แน่นอน

เมื่อถอดรหัสจากคำพูดของผู้มากบารมีของพรรคเก่าแก่ ก็ทำให้มองเห็นว่าพรรคไหนที่ยื่นเงื่อนไขด้วยกระสุนก้อนโต และทำให้เห็นอีกว่าพรรคของผู้มีอำนาจก็ใช้กระแสที่คิดว่าตัวเองดีกว่ามาล่อให้คนของพรรคเก่าแก่ย้ายคอก ส่วนจะมีข้อเสนออื่นพ่วงท้ายด้วยหรือไม่ไม่น่าจะคาดเดาได้ยาก แค่โหมโรงระฆังยกแรกยังไม่ดังขึ้น เราก็ได้เห็นความเข้มข้นของพรรคการเมือง และนักเลือกตั้งที่เริ่มสาดโคลนกันแล้ว เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวเชื่อได้เลยว่าจะดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน โดยเฉพาะการปะฉะดะของพวกเดียวกัน