พาราสาวะถี

เอกสารพิมพ์ตัวโตในมือของ วิษณุ เครืองาม ว่าด้วยไทม์ไลน์เลือกตั้ง 2566 ที่ระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมเอาคนต่างด้าวมาคำนวณแบ่งเขต ส.ส.ทำไม่ได้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะยุบสภาในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ล่าสุด ตัวผู้นำยืนยันเองว่าไม่ใช่วันดังกล่าว นักข่าวพยายามซักต่อจะเป็นช่วงก่อนหรือหลังวันที่ 15 ท่านผู้นำโชว์ลีลาเรื่องนี้เป็นเรื่องของผม แต่ถ้าจะเอาอย่างที่เดาทางดักคอกันไว้ก่อนหน้า อาจจะเป็นวันเกิด 21 มีนาคม ประสาคนถือฤกษ์ยามน่าจะใช้วันที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเลือกตั้งและพรรคการเมืองไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าจะเป็นวันไหน เพราะรู้กันอยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่อยู่ให้ครบวาระ ใครจะโง่ให้ตัวเองเสียเปรียบและเดินไปสู่ถนนแห่งความพ่ายแพ้ เพราะจนถึงเวลานี้แม้จะอ้างรวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเดียวที่พร้อมส่งผู้สมัครได้ครบทั้ง 77 จังหวัด แต่มันก็เป็นแค่เรื่องเทคนิคทางกฎหมาย ในความเป็นจริงคือตัวผู้สมัครประเภทตัวเต็งยังได้ไม่ตามเป้า ขืนไม่ยุบสภาใช้ตัวเลือกที่มีอยู่ในมือเรียกได้ว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนาม

จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องตลกที่ทำให้ขำไม่ออก หากยึดตามหลักการของการยุบสภาแล้ว มันควรจะต้องเกิดขึ้นในช่วงที่สภาอยู่ในสมัยประชุม และมีความขัดแย้งกันจนทำงานต่อไม่ได้ หรือสภาล่มซ้ำซาก แต่นี้กลายเป็นว่าไม่ได้มีปัญหาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ทว่าเป็นการยุบสภาเพื่อให้นักการเมืองที่ได้รับเงื่อนไขสุดงามสามารถย้ายคอกเข้าสังกัดได้ทันตามเงื่อนเวลาที่กฎหมายกำหนด ความจริงก็มีเพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่ยังวางตัวผู้สมัครไม่เรียบร้อย

หากเดินกันตามเส้นทางการเมืองปกติ เล่นกันตามกติกา ไม่ชกใต้เข็มขัด หรือใช้วิธีการสกปรก แทบจะมองเห็นแล้วว่าบทสรุปหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ด้วยกลเกมของบรรดาลิ่วล้อเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ผ่านมา มันจึงยังทำให้บรรดาแกนนำพรรคการเมืองไม่ใช่เฉพาะสองพรรคฝ่ายค้านสำคัญอย่างเพื่อไทยและก้าวไกล ต้องคอยตรวจสอบ ระแวดระวังกันอย่างเต็มที่เท่านั้น แม้แต่พรรครัฐบาลปัจจุบันอย่างพรรคสืบทอดอำนาจก็กลัวจะถูกหางเลขไปด้วยเช่นกัน

ย้ำแล้วย้ำอีก ประเภทอย่างหนาเรียกพี่อย่าคิดว่าไม่กล้าทำในบริบทของการเมืองที่ประชาชนน่าจะหมดความอดทน พวกที่ต้องการอยู่ยาว อนุรักษ์นิยมสุดโต่งไม่สนใจ ไม่แยแสต่อความเสียหายใด ๆ อยู่แล้ว ต่อให้คนจะจนเพิ่ม คุณภาพชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่อย่างไรช่างหัวมัน ขอเพียงแค่ให้ได้ครองอำนาจ จัดสรรผลประโยชน์ของชนชั้นนำได้ลงตัว ไม่มีแรงกระเพื่อมหนัก ๆ จนทำให้เสถียรภาพของอำนาจสั่นคลอน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

อีกอาวุธที่จะถูกนำมาใช้หลังจากยุบสภาไปแล้วคือ บรรดาสื่อในเครือข่ายขบวนการสืบทอดอำนาจ จะโหมประโคมข่าวสองรูปแบบคือ นำเสนอผลสำเร็จ แสดงผลงานของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกว่า 8 ปีที่ผ่านมา อีกด้านก็จะโจมตีทั้งตัวผู้สมัคร พรรคการเมือง และนโยบายของพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งสำคัญ เพื่อไทยจะถูกปูดประเด็นการถูกชี้นำจาก ทักษิณ ชินวัตร และด้อยค่านโยบายต่าง ๆ ที่ประกาศไป ส่วนก้าวไกลก็จะถูกเล่นงานด้วยปมสถาบัน เหล่านี้คืองานถนัดของสื่อเสี้ยมอยู่แล้ว

ส่วนพวกปฏิบัติการไอโอจะหันไปทำหน้าที่ในพื้นที่เป็นด้านหลักว่าด้วยการปล่อยข่าวทำลายคู่แข่ง บวกกับการแอบอ้างสิ่งที่เชื่อว่าจะช่วยสร้างคะแนนนิยมให้ตัวผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและพรรคที่สังกัดได้ ร่วมด้วยสำนักโพลที่ก็รู้กันอยู่ว่ารับใช้ใคร ก็จะนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นไปในทิศทางที่ไม่ได้ทำให้คนมองว่าไม่เป็นกลาง ด้วยการชูผลคะแนนนิยมที่จะใช้พรรคภูมิใจไทยเป็นกันชนชนิดที่ว่าเบียดจี้กับเพื่อไทย โดยมีพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไล่ตามมาติด ๆ

โพลประเภทนี้จะถูกนำไปใช้อะไร จะเป็นประโยชน์ในวันเลือกตั้งสำหรับพรรคที่อยู่เบื้องหลัง เกี่ยวกับวงการพนันขันต่อ เมื่อมีรายชื่อของผู้สมัครที่ไล่บี้ไล่เบียดกันแล้ว ออกราคาล่อใจมาก ๆ มันช่วยให้หลายรายพลิกมาชนะให้เห็นกันมาแล้ว บอกแล้วว่าประเภทวิชาสามานย์นั้นไม่มีใครเกินพวกหน้ากากคนดี มิเช่นนั้น ปมเน่าเฟะในแวดวงคนมีสีคงไม่ถูกถลกหนังกันเป็นว่าเล่น เพราะรู้กันดีว่า เรื่องชั่วช้าเลวทรามถึงขนาดกลายเป็นพวกทรงอิทธิพลนั้น คนธรรมดาทั่วไปไม่มีใครกล้าทำ

ไม่ว่าจะมีการวางแผนกันอย่างไร ซีกของฝ่ายค้านก็ไม่ได้หวั่นไหว ยังคงเชื่อมั่นว่าพลังของความต้องการเปลี่ยนแปลงน่าจะช่วยทำให้ผ่านพ้นการใช้เล่ห์กลเล่นงานของพวกคนดีอุปโลกน์ได้ ขณะเดียวกัน การสานสัมพันธ์ว่าด้วยการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งผ่านมือประสานของแต่ละพรรคนั้น ก็ไปไกลเกินกว่าที่จะมามองว่าขั้วการเมืองเดิมจะได้กลับเข้าสู่อำนาจอีกหรือไม่ โดยเฉพาะพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.หลังจากใช้ใจบันดาลแรงแล้ว ไม่เคยมองเห็นน้องเล็กอยู่ในสายตาอีกต่อไป

ความเป็นไปได้ของการจับมือตั้งรัฐบาลเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ล้มขบวนการสืบทอดอำนาจนั้นมีมากกว่าที่จะได้เห็นภาพของรัฐบาลขั้วเดิม ยิ่งเห็นการบอนไซพรรคประชาธิปัตย์จากอำนาจเผด็จการสืบทอดอำนาจแล้ว โอกาสจะกลับมายิ่งใหญ่มองไม่เห็น ไม่ต้องพูดถึงพรรคเล็กพรรคน้อยที่เคยได้รับส่วนบุญก่อนหน้าไม่มีทางที่จะได้เก้าอี้ ส.ส.แบบส้มหล่นเหมือน ส.ส.ปัดเศษครั้งที่แล้ว ส่วนภูมิใจไทยกับพรรคสืบทอดอำนาจหากได้ ส.ส.มากกว่าพรรคผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ใครจะยอมโง่ซ้ำซากมาแบกเสลี่ยงให้คนแพ้ได้เสวยสุขอีก

พรรคการเมืองที่น่าสนใจในการเลือกตั้งหนนี้คือก้าวไกล บนความเปลี่ยนแปลงทั้งระบบเลือกตั้งและผู้นำทีมจาก ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ มาเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเกิดกระแสที่ถูกตั้งคำถามต่อความไม่ลงรอยกันของหัวหน้าพรรคกับที่ปรึกษาคนสำคัญ ปิยบุตร แสงกนกกุล ก่อนที่จะเคลียร์กันได้ ปัจจัยที่เปลี่ยนไปเหล่านี้จะยังทำให้พรรคความหวังของคนรุ่นใหม่ และชนชั้นกลางที่ต้องการเปลี่ยนแปลงยังเดินได้อย่างเข้มแข็งเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าพิจารณาเบื้องต้นจากแนวรบที่ปิยบุตรเสนอแนะว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างพลังเก่ากับพลังใหม่ หากจุดกระแสนี้ติดบทสรุปของก้าวไกลก็น่าจะไม่ขี้เหร่กว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน