9 แบงก์ใหญ่ปล่อยกู้ STPI วงเงิน 2.4 หมื่นล้าน ลุยวินด์ฟาร์ม ”สปป.ลาว” 600 เมกะวัตต์
"กลุ่ม STPI" ลงนาม แบงก์ไทย-ต่างประเทศ ปล่อยกู้เงิน 2.4 หมื่นล้าน ลุยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ”สปป.ลาว” 600 เมกะวัตต์ ใหญ่สุดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STP&I ร่วมกับ บริษัท อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม จำกัด (“IES”) ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon และผู้ถือหุ้นรายอื่น ได้แก่ ACEN Renewables International Pte. Ltd. และ SMP Group ได้ลงนามในเอกสารข้อตกลงทางการเงินแบบ non-recourse สำหรับการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon เป็นจำนวนประมาณ 692 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 24,103 ล้านบาท โดยเงื่อนไขบังคับก่อนคาดว่าจะดำเนินการได้เรียบร้อยในไม่ช้า
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon เป็นโครงการรูปแบบ Build-Own-Operate ขนาด 600 เมกะวัตต์ และสายส่งไฟฟ้าขนาด 500kV ในแขวงเซกองและแขวงอัตตะปือ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ของ สปป.ลาว นับเป็นโครงการพลังงานลมโครงการแรกใน สปป.ลาว และเป็นโครงการข้ามพรมแดนโครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะขายให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ผ่านสายส่งขนาด 500kV ของโครงการ
โดยมีสถาบันการเงินที่สนับสนุนเงินลงทุนของโครงการ มีดังนี้ 1.ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เป็น Lead Arranger, 2.ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB), 3.องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA), 4.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.), 5.ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC), 6.ฮ่องกง มอร์เกจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, 7.ธนาคารกสิกรไทย , 8.ธนาคารไทยพาณิชย์ และ 9.กองทุนส่วนบุคคลด้านโครงสร้างพื้นฐานและสภาพอากาศ
โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในแผนพัฒนาไฟฟ้าของรัฐบาลประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะช่วยบรรเทาวิกฤตความต้องการใช้ไฟฟ้าและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศเวียดนาม โครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนผ่านการขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน รัฐบาลลาวจะได้รับประโยชน์จากโครงการในรูปแบบต่างๆ เช่น การรับรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากค่าภาคหลวงและแหล่งอื่นๆ ตามสัญญาสัมปทาน โครงการดังกล่าวจะส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่นทั้งในระหว่างการก่อสร้างและการดำเนินงาน
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาชุมชนและโครงการพัฒนาชาติพันธุ์ของผู้สนับสนุนของโครงการ จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยกำหนดเป้าหมายไว้ทั้งด้านสุขภาพ การศึกษา และเศรษฐกิจ
นายมาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการผู้จัดการ STP&I กล่าวว่า “STP&I เชื่อว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียนมีอยู่รอบตัวเรา และเราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด ซึ่งรวมถึงพลังงานลม นอกเหนือจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เราได้ลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังรวมถึงช่วยลดความกังวลด้านมลพิษทางอากาศและด้านสุขภาพด้วย”
ซึ่งเป็นโครงการพลังงานลมโครงการแรกใน สปป.ลาว เพื่อส่งออกและขายไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้าน ประเทศเวียดนาม นับว่าเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็น Platform สำหรับการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาคและการลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง นับได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและและเพิ่มมูลค่าในธุรกิจด้านพลังงานสะอาดให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ STP&I ซึ่งเป็นเส้นทางสู่โลกแห่งความแข็งแรง และเป็นโลกที่น่าอยู่สำหรับปัจจุบันและสำหรับชนรุ่นหลังต่อไป
STP&I ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2518 และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จ คือ “เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกฝ่าย” และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานอีกจำนวนมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับโลกของเรา ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานอันแข็งแกร่งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon นี้เราจึงได้มีการศึกษาวิเคราะห์โครงการพลังงานลมเพิ่มเติมอีกกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ในบริเวณใกล้เคียงกับที่ตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ดังกล่าว ทั้งนี้โครงการต่างๆที่กล่าวมานี้คาดว่าจะสามารถชดเชยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50 ล้านตัน ตลอดอายุโครงการ