ราคาที่ต้องจ่าย!

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ทุกอย่างไม่เป็นเหมือนที่วาดฝัน มักลงเอยด้วยการขายหุ้นทิ้งเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคราวนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่!


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่ทุกอย่างไม่เป็นเหมือนที่วาดฝัน มักลงเอยด้วยการขายหุ้นทิ้งเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคราวนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่! เพราะทุกคนรู้อยู่เต็มอกตูม ๆ ว่า การลงทุนต่อจากนี้มันไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยใส่ปาก จึงต้องเผื่อใจสำหรับการคัทลอสไว้บ้างพอสมควร! แถมจังหวะนี้เป็นการเล่นแบบ “ทำเร็ว” จึงเป็นการวัดความไวของแต่ละคนพะย่ะค่ะ

เนื่องจากแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามามีทั้งเรื่อง ขึ้น XD ชอร์ตเซล ฟอร์ซเซล ดอกเบี้ยขาขึ้น ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องคือตัวการสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มสถาบันกังวลใจเป็นอย่างมาก และลงเอยด้วยการขายหุ้นออกมาเป็นระลอก จนสุดท้ายดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,612.64 จุด ลบไป 7.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.75 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ย้ำให้เดี๊ยนต้องพึงสังวรณ์ให้มากกว่านี้นะจ๊ะ

โดยเฉพาะการลงมายืนใกล้แนวรับสุดท้ายบริเวณ 1,600 จุด ถือเป็นเรื่องที่บีบหัวใจสำหรับคนอย่างอีฉัน เพราะสิ่งที่เห็นจากภายนอก มันน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่เมื่อดูเรื่องราวภายในที่เกิดขึ้น มันเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย “โมนิก้า” ถึงเข้าใจอารมณ์ตลาดหุ้นที่ออกไปในโทนลบได้เป็นอย่างดี และเข้าใจเหตุผลที่หุ้นใหญ่บางตัวที่พยายามสวนกระแส ทั้งที่ตัวเองคือเป้าหมายถูกขายทิ้งในอนาคตนะจะบอกให้

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเอ่ยถึงหุ้น AOT เพื่อชี้ให้เห็นการโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ โดยระหว่างทางพยายามดีดตัวเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ต้านแรงขายที่มีออกมาไม่ไหว จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 71.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้านไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะคนที่รินขายหุ้นออกมามีทั้ง “ฝรั่ง” และ “กองทุน” น่ะซี

อีกรายที่โดนขายหนักแบบน่าใจหาย และยังมีประเด็นเรื่องคุมดอกเบี้ยมาเป็นแรงกดดัน “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น SAWAD เป็นรายถัดมา เพราะการทิ้งตัวลงมาปิดที่ระดับ 53 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.71 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า หมดแรงที่จะไปต่อแล้วจริง ๆ ต่อจากนี้จะเข้าสู่วงรอบไซด์เวย์ดาวน์กระมัง!..ลองไปคิดดูนะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลือบมองไปที่หุ้น HANA เพื่อชี้ให้เห็นอาการ “เด้งแล้วลง” มันเป็นภาพที่ย้ำเตือนนักเล่นว่า ต้องเข้าให้ถูกจังหวะ! เพราะเดี๊ยนก็ไม่แน่ใจว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 57 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 826 ล้านบาท มันเป็นจุดที่ควรยื่นมือเข้าไปรับอะป่าว? เพราะหุ้นเริ่มออกอาการเป๋ให้เห็นถี่ขึ้น เลยไม่แน่ใจจะมีแรงเด้งกลับน่ะซี

คล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้นกระดาษลัง SCGP ก็มีประเด็นที่ทำให้ต้องคิดมากเป็นพิเศษ เพราะช่วงที่ผ่านมาเห็นกันเต็มตาว่า กำไรลด! จึงโดนรุมสกรัมขายออกมาเรื่อย ๆ จนราคาหุ้นลงมานอนแอ้งแม้งที่ระดับ 52 บาทร่วมเดือน จู่ ๆ วานนี้กลับพุ่งพรวดพราด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 53 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท ก็กลายเป็นเกมที่นักเล่นต้องเดาทางว่า ของจริงอ๊ะป่าว?

ต่อเนื่องมาดูปรากฏการณ์เขย่า ต้นมะเขือ..อุ๊ย..ต้นมะม่วง ของหุ้นสุดเลิฟอย่าง THCOM กันดีกว่า! หลังราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 14.20 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 401 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเพียงการ “เทกโปรฟิต” ช่วงสั้นเท่านั้น! เพราะเมื่อเทียบกับอนาคตที่ซีอีโอหนุ่มหล่อเข้มอย่าง “คุณพี่ไนล์” ฉายภาพ (ไม่เปลือย) ให้เห็น ก็บอกได้คำเดียวว่า ไม่สะบัดลีลาเมกเลิฟตอนนี้ แล้วจะไปออกแอคชั่นกันเมื่อไหร่ล่ะคะ…คุณพี่ขา

เหมือนกับการ “ร่วมหอ” ระหว่าง SABUY กับ SINGER ถือเป็นพลังผนึกที่แข็งแกร่งในมุมของการบิ้วให้ทั้ง 2 ฝั่งวิน-วิน และประเด็นนี้จะหนุนให้รายหลังกลับมาโลดแล่นบนกระดาน Most Active อีกนานเลยทีเดียว เพราะคิดแค่เอาสินค้ากว่า 60 บริษัทมาขายผ่าน “ซิงเกอร์” ก็ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการตาลุกวาว จึงอยากถามแฟนคลับว่า การที่รายหลังยืนปิดในระดับ 23.10 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.41 พันล้านบาท มันสะท้อนอะไรให้เห็นบ้างจ้า!

Back to top button