SKY ควัก 67 ล้าน เพิ่มทุนทางอ้อม AOTGA ลุยงานภาคพื้นดินสุวรรณภูมิ
SKY ใส่เงินเพิ่มทุน 67 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อให้เอสเอแอลมีเงินทุนนำไปเพิ่มทุนใน AOTGA เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ลุยงานภาคพื้นดินสุวรรณภูมิ ภายหลังเข้าทำรายการ SKY เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 42.12% ของทุนจดทะเบียน
บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY แจ้งว่ามติบอร์ดอนุมัติให้ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทร่วม คือ บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ เอสเอแอล จำนวน 673,958 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 67.40 ล้านบาท โดยภายหลังเข้าทำรายการ SKY ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 42.12% ของทุนจดทะเบียน
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน เอสเอแอล จะอาศัยแหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียน วัตถุประสงค์ของการใส่เงินเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อให้เอสเอแอลมีเงินทุนนำไปเพิ่มทุนใน บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทรับรู้ผลกำไรในส่วนงานที่ขยายดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เอสเอแอล เป็น Holding Company และได้ถือหุ้น 51% ใน AOTGA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ AOT ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับประกอบกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยาน และผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT
รวมทั้ง AOTGA มีบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ถือหุ้น 49% และบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ SAL ถือหุ้น 51%
ขณะที่ บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III และบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ถือหุ้น AOTGA ทางอ้อมผ่านการถือหุ้นใน SAL โดย III ถือหุ้น 25% ส่วน SKY ถือหุ้น 33.20% และอื่น ๆ 41.8% ดังนั้นการเพิ่มทุนทางอ้อมของ SKY จะได้นำเงินไปสู่การบริหารจัดการในธุรกิจภาคพื้นอากาศยาน
ทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้า ครม.ไฟเขียว AOT เปิดสรรหาเอกชนรายที่ 3 โครงการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น และงานบริการคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงินรวมกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท “นิตินัย” เตรียมส่ง AOTGA บริษัทร่วมทุน SKY เข้าชิงงานบริการภาคพื้นวงเงิน 2.93 หมื่นล้านบาท สัมปทาน 25 ปี เปิดประมูลมิ.ย.นี้
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (7 มี.ค. 2566) มีมติอนุมัติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ดำเนินโครงการ 2 โครงการ วงเงินรวม 67,305.32 ล้านบาท คือ 1.โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 และ 2.โครงการให้บริการคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 ตามหลักการที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นในการดำเนินการทั้ง 2 โครงการข้างต้น หลังจาก AOT ได้วิเคราะห์สภาพการให้บริการทั้งลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ และคลังสินค้า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว พบว่าระดับการให้บริการของผู้ประกอบการปัจจุบันใกล้เต็มขีดความสามารถ และจะไม่สามารถรองรับความต้องการได้เพียงพอเมื่อปริมาณเที่ยวบินกลับเข้าสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ภายในปี 2567