คัด 8 หุ้นตัวท็อป! รับอานิสงส์ยอดผลิตรถยนต์ 2 เดือน ทะลุ 3.3 แสนคัน

คัด 8 หุ้นตัวท็อป! รับอานิสงส์ยอดผลิตรถยนต์ 2 เดือนแรกทะลุ 3.3 แสนคัน โต 7% ลุ้นทั้งปีนี้แตะ 1.95 ล้านคัน นำทีม SAT,NYT,SJWD,BYD,EA,AH,STANLY,GPSC


จากประเด็นยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.2566 อยู่ที่ 1.66 แสนคัน โต 6% จากปีก่อน แลส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 2 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 3.3 แสนคัน โต 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะสร้างจิตวิทยาบวกต่อตลาด โดยเฉาะหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์,ผลิตแบตเตอรี่,รถยนต์อีวี,ธุรกิจท่าเรือส่งออก และนำเข้ารถยนต์ จะได้ประโยชน์มากสุด อาทิ SAT,NYT,SJWD,BYD,EA,AH,STANLY,GPSC ดังบทวิเคราะห์ระบุไว้ดังนี้

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.2566 ปรับตัวดีขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.2566 อยู่ที่ 1.66 แสนคัน โต 6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต5%เทียบเดือนก่อนหน้า

โดยเป็นผลจากการได้รับเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) เพิ่มจึงทำให้สามารถผลิตรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์ปรับตัวดีขึ้นเป็น 8.9 หมื่นคัน โต 11%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 2% เทียบเดือนก่อนหน้า

ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 7.2 หมื่นคัน ลดลง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต 9% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยลดลงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดส่งมอบรถกระบะในประเทศน้อยลง เนื่องจากผู้ผลิตได้หันไปผลิตเพื่อเร่งส่งออกทดแทนเนื่องจากที่ผ่านมาได้ค้างส่งมอบเพราะปัญหาขาดแคลนชิป

ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 2 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 3.3 แสนคัน โต 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมองเป็นกลาง จากยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.66 ที่เติบโตตามคาด โดยยอดผลิตรถยนต์ 2 เดือนแรกปี 66 จะคิดเป็น 16.8% จากทั้งปี 66 ที่ประเมินที่ 1.95 ล้านคัน โต 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับยอดผลิตรถยนต์ในเดือน มี.ค.66 จะมีทิศทางดีขึ้นต่อจาก การส่งออกที่เติบโตจากปัญหาการขาดแคลนชิปที่คลี่คลาย และได้ผลบวกจากงานมอเตอร์โชว์กลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “Neutral” โดยราคาหุ้นกลุ่ม Automotive ปรับตัวขึ้น underperform SET ลดลง 3% ในช่วง 3 เดือน จากยอดผลิตรถยนต์ที่เริ่มเติบโตในอัตราที่ช้าลงจากฐานที่สูงขึ้นในปีก่อน

โดยหุ้นบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท บาท โดยประเมินกำไรปกติปี 66 ที่ 1.04 พันล้านบาท โต 11%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้น, ได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพิ่ม และต้นทุนวัตถุดิบเหล็กที่ทยอยลดลง สำหรับกำไร ไตรมาส 1/66 จะกลับมาดีขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ได้ จากยอดผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนั้นจากยอดส่งออกรถยนต์ที่ดีขึ้นโดดเด่น มองเป็นบวกต่อ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน)  หรือ NYT (เป้า Bloomberg consensus เฉลี่ย 4.46 บาท) ที่ทำธุรกิจท่าเรือส่งออกและนำเข้ารถยนต์ ส่วนยอดจดทะเบียนรถ EV ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก มองเป็นบวกต่อ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย23.00 บาท ที่ได้รับงานบริการโลจิสติกส์นำเข้าทั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD, บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ยอดส่งออกยานยนต์ไทยดีก.พ.โต 11.4% ที่ 8.9 หมื่นคัน เพราะรถยนต์ EV ได้รับความนิยมสูง และปัญหาขาดแคลนชิปคลายลง หลักทรัพย์ได้ประโยชน์ เช่น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ,บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH,SAT,บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY

บริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผย ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.66 อยู่ที่ 1.66 แสนคัน โต 6% เทียช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 5% เทียบเดือนก่อนหน้า เพิ่มขึ้นจากการได้รับชิ้นส่วนชิปเพิ่มขึ้น โดยฉพาะการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 16.2%เทียช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับยอดขายในประเทศเดือน ก.พ. 23 ที่ 7.2 หมื่นคัน ลดลง 4% เทียช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% เทียบเดือนก่อนหน้า มองเป็นกลางเพิ่มขึ้นตามคาด

ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งอีวีเดือนก.พ.อยู่ที่ 5,402 คัน สูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึก เพิ่มขึ้นโต 5,016% เทียช่วงเดียวกันของปีก่อน จิตวิทยาบวกกลุ่ม EV Ecosystem ได้แก่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ EA

Back to top button