ซบเซา..แต่ยังแซ่บ

บรรยากาศลงทุนเช้าวานนี้ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที เพราะท่าที “เอาจริง เอาจัง” เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ จึงกระโดดเข้ามาตะลุมบอนกันอย่างเมามัน พอฝุ่นควันจางหายก็ทำให้ทุกคนรีบกลับเข้าที่ตั้งมั่น พร้อมกับเก็บคองอเข่าเพื่อรอรับแรงกระแทกจากปัจจัยลบต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่พลิกล็อกมากพอสมควรสำหรับนักเล่นที่เพิ่งมีอารมณ์กระเหี้ยนกระหือรือเจ้าค่ะ

เนื่องจากหลายคนเพิ่งคิดได้ว่า สถานการณ์ต่อจากนี้คงไม่หมูเหมือนที่ผ่านมา และปัจจัยบวกใหม่ ๆ ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จึงเลือกใช้วิธี “นิ่งสงบ..สยบความเคลื่อนไหว” ซึ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนวานนี้เงียบเหงาสุดตั้งแต่เปิดปี 66 เป็นต้นมา แถมเมื่อย้อนดูสถิติมูลค่าการซื้อขายต่ำสุดก่อนหน้านี้ ก็ต้องย้อนกลับไปวันที่ 26 ธ.ค. 65 ซึ่งวันนั้นเทรดกันอยู่ในระดับ 2.94 หมื่นล้านนะตัวเอง

ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,593.37 จุด บวกไป 1.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.60 หมื่นล้านบาท จึงเป็นบรรยากาศลงทุนที่ซบเซามากสุดในรอบ 3 เดือน และมีแนวโน้มที่จะซึมเซาแบบนี้ค่อนข้างสูง เพราะตัวเร่งที่จะทำให้นักลงทุนกลับมาคึกคัก มันหายากเหลือเกินในเวลาเช่นนี้ “โมนิก้า” จึงขอถามนักเล่นอีกครั้งว่า จังหวะนี้เหมาะที่จะช้อนหุ้นเข้าพอร์ตเมื่อย่อตัวลงมาอ๊ะป่าว?

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น SCB ที่ตั้งลำอ่อน ๆ เพื่อทะยานขึ้นรอบใหม่ แต่สุดท้ายก็มีแรงขายรินออกมาเป็นช่วง ๆ มันเป็นจังหวะที่เย้ายวนใจขาลุยดีแท้ ๆ เพราะครั้งนี้สามารถประคองตัวเหนือร้อยบาทได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 101.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนขอเดาว่า เกมนี้ขึ้นอยู่กับกองทุนจะลุยต่อไหม?..ถ้าลุยต่ออีกรอบ ก็เป็นจังหวะของการเก็บหุ้นนะจ๊ะ

ส่วนรายที่พุ่งกระฉูดแบบไม่เหลียวหลังมองคนอื่นจะเป็นอย่างไร? เดี๊ยนคงมองไปที่หุ้นโรงเรียนของหนูอย่าง SISB เพราะเป็นหุ้นที่เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลา จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 29.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 223 ล้านบาท ก็เป็นจังหวะที่ต้องคิดต่อไปว่า เหมาะที่จะไหลตามน้ำไหม? หลังหุ้นขึ้นมาเทรดบนพีอี 70 เท่าแล้วน่ะซี

เช่นเดียวกับการตั้งลำขึ้นรอบใหม่อย่างหุ้นดาวเทียม THCOM ก็มีประเด็นที่นักเล่นต้องคิดเป็นช่วง ๆ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาพร้อมกับสตอรี่โกรทเป็นแรงผลักดันหลัก แต่เมื่อเหลือบดูอาการอ่อนแรงเกิดขึ้นแถว 16 บาท โดยที่หุ้นเทรดบน PE 360 เท่า ก็เป็นเกมของความเชื่อมั่นล้วน ๆ ถึงทำให้หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาทแบบชิล ๆ..ส่วนจะไปต่อหรือเปล่า? ก็ขึ้นกับเจ้ามือมากกว่า..อิอิอิ

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นที่มีเจ้ามือขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้นร้อนที่เม่าต้องใช้ความไวมากเป็นพิเศษอย่าง NUSA กันดีกว่า! เพราะการที่หุ้นวิ่งกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.95 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท ทั้งที่ทิศทางของหุ้นไซด์เวย์ดาวน์เป็นเวลานานถึง 3 เดือนแบบนี้..ศัพท์เทคนิคเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า “เดตแคท” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แมวดิ้นก่อนตาย” หรือไม่!..วันนี้รู้กันจ้า

ส่วนรายที่ “จัดเต็ม จัดหนัก” แบบไม่ต้องเหลียวหลังให้เมื่อยคอ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น YONG เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นเที่ยวนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนกระชากพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ 2.96 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่า และยังมีลุ้นผลงานโตกระหึ่มแบบนี้ มันเป็นจังหวะของผู้กล้าอย่างแท้จริง หลังหุ้นเดินหน้าทำ all time high อีกครั้งเจ้าค่ะ

สำหรับรายที่ประคองตัวได้อย่างยอดเยี่ยม จนขาลุยได้เล่นรอบกันสนุกสนาน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นโรงพยาบาลความงามอย่าง MASTER แบบไม่ลังเลใจ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 84 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171 ล้านบาท โดยมีแบ็คอัพเรื่องการเติบโต 3 ปีข้างหน้า เฉลี่ยน่าจะโตปีละ 40% แบบนี้..มันเป็นช็อตที่ช่วยหนุนให้หุ้นไปต่อยาว ๆ จริงหรือไม่ ก็ต้องรอชมฝีมือของ “หมอเส” กันเอาเองนะคะ