ป่วนตลาดหุ้น
ถ้ามองตลาดหุ้นไทยตามท้องเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเห็นว่า แรงขายที่มีออกมาเป็นระลอกในภาวะปกติ มักจะมาจากหุ้นที่หลากหลายกลุ่มด้วยกัน
ถ้ามองตลาดหุ้นไทยตามท้องเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเห็นว่า แรงขายที่มีออกมาเป็นระรอกในภาวะปกติ มักจะมาจากหุ้นที่หลากหลายกลุ่มด้วยกัน แต่ในบางครั้งจะเห็นว่า DELTA มักกลายเป็นหุ้นที่ป่วนตลาดหุ้นเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจการอ่อนตัวของดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,600.37 จุด ลบไป 8.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.67 หมื่นล้านบาท มันเป็นเรื่องของสถานการณ์บางอย่างมีอิทธิพลเหนือตลาดหุ้นน่ะซี
งานนี้เลยพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ถ้ากังวลกับการเหวี่ยงตัวของตลาดหุ้นไทย ก็ให้อยู่เฉยๆ เป็นการชั่วคราวน่าจะดีที่สุด ถ้าหากเข้าใจสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยไม่มีเรื่องต้องกังวลเหมือนที่ผ่านมา นี่คือจังหวะที่นักเล่นควรทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตให้ได้มากสุด เพราะเมื่อดูจากประเด็นข่าวที่นักเล่นกลุ่มต่างๆ มุ่งตรงไปยังเรื่อง “โกรทสต๊อก” ก็มีหุ้นหลายตัวที่ขาลุยต้องกระโจนใส่ในทันทีพะย่ะค่ะ
เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับเก็บไปคิดเป็นการบ้าน เพื่อทำให้ตัวเองเข้าใจอาการปั่นป่วนที่เกิดขึ้นถี่ๆ ล้วนมาจากหุ้นตัวกล่าวจริงไหม? เพราะในมุมของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นจากงบไตรมาส 1 ต่อเนื่องจนมาถึงเรื่องการเลือกตั้ง และตามติดมาด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล้วนเป็นภาพที่ทำให้เชื่อว่า ดัชนีน่าจะดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,700 จุดในช่วงกลางปีนะออเจ้า
วันนี้จึงต้องถามการทะยานอย่างร้อนแรงของหุ้น DELTA จนขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ระดับ 1,154 บาท แต่ถัดมาอีกวันดันร่วงลงไปทำโลว์ที่ระดับ 964 บาท ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 970 บาท ลบไป 172 บาท หรือลงไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.61 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความวุ่นวายที่จะอยู่คู่กับตลาดหุ้นไทยไปอีกนาน เพราะหุ้นตัวนี้กลายเป็นของที่นักลงทุนสถาบันต้องมีติดพอร์ต เลยกลายเป็นตัวชี้นำตลาดหุ้นไทยไงล่ะคะ
ส่วนรายที่มีอาการเสียรางวัดเป็นเวลาร่วมสัปดาห์ และมีอาการเมาหมัดจนหาทางกลับบ้านไม่เจออย่าง CBG ถือเป็นช็อตที่สร้างความงุนงงให้กับนักเล่นพอสมควร เพราะการไหลลงพรวดพราดก่อนจะมาปิดที่ระดับ 92.50 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 718 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ผลงานไตรมาส 1 ที่กำลังจะประกาศอาจไม่สวย หลังตัวเลขส่งออกหดตัวต่อเนื่องเจ้าค่ะ
ประเด็นข้างต้นยังกระทบชิ่งไปยังหุ้นสาหร่ายเกลียวทองอย่าง TKN ชนิดที่เรียกได้ว่า “เต็มหลังเท้า” และดูเหมือนเรื่องนี้จะกัดกร่อนความมั่นคงของราคาหุ้นไปเรื่อยๆ วานี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 9.20 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาทแบบไร้ทางสู้ “โมนิก้า” ถึงมองไม่ออกเหมือนกันว่า ราคาหุ้นจะไปหยุดลงตรงไหน?..ใครรู้ช่วยตอบทีจ้า!
ในเมื่อสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจ “โมนิก้า” ก็ไม่แปลกใจที่หุ้น PRTR ถูกรินขายออกมาไม่หยุดหย่อน จนล่าสุดหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 8.35 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58 ล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ยากต่อการเข้าใจก็จริง แต่ในเมื่อตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงของการโยกหุ้นเล่นกันไปเรื่อยๆ ก็ควรเข้าใจว่า การเทรดบน PE 25 เท่า ไม่ได้เสี่ยงเกินไปนะจ๊ะ
เม้าท์ถึงหุ้นที่ไม่เสี่ยงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นท้องฟ้าอันกว้างไกลอย่าง SKY ขึ้นมาทันที เพราะเมื่อดูภาพท่องเที่ยวยาวๆ จะเห็นโอกาสในการปั๊มทั้ง “รายได้” และ “กำไร” แบบเต็มสตรีม เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 28.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 156 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการ follow buy สำหรับคนที่กล้าโหนกระแสนะจะบอกให้
สตอรี่ข้างต้นทำให้เดี๊ยนอยากเอ่ยถึงพ่อดอกมะลิอย่าง JAS เพื่อชี้ให้เห็นการขยับตัวเป็นช่วงๆ จนวานนี้ขยับก้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.16 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84 ล้านบาท ทั้งที่กลางเดือนก่อนลงไปทำโลว์ที่ระดับ 1.77 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่เหมาะต่อการเข้าไปตะลุมบอล เพราะในมุมของเทคนิคเขาเรียกจังหวะนี้ว่า เด้งกลับเจ้าค่ะ