COM7 ร่วง 5% โบรกคาดกำไร Q1 แตะ 800 ล้าน หดจากไตรมาสก่อน 12%
COM7 ดิ่ง 5.04% โบรกฯ มองกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 แตะ 800 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 12% เป็นเพราะปัจจัยฤดูกาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 เม.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ล่าสุด ณ เวลา 10:40 น. อยู่ที่ระดับ 28.00 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.88% สูงสุดที่ระดับ 29.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 27.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 299.56 ล้านบาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประมาณการกำไรสุทธิของ COM7 ในไตรมาส 1/66 ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และลดลง 12% จากไตรมาสก่อน คิดเป็น 23% จากประมาณการกำไรสุทธิเต็มปีกำไรเติบโตจากงวดเดียวของปีก่อน จากยอดขายเติบโตแข็งแกร่งหนุนจากการขยายสาขาร้านเป็นหลัก ขณะที่กำไรลดลงจากไตรมาสก่อน เป็นเพราะปัจจัยฤดูกาล
ส่วนยอดขายของ COM7 ในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลง11% จากไตรมาสก่อน หากเป็นไปตามที่คาด ยอดขายไตรมาส 1/66 จะคิดเป็น 23% จากประมาณการเต็มปีปัจจุบัน โดยการที่ยอดขายเติบโตจากงวดเดียวของปีก่อน จะมาจากขยายสาขาร้านในขณะที่ยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อน เป็นเพราะปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ จำนวนสาขาร้านโดยรวมอยู่ที่ 1,100 สาขา ณ สิ้นงวด ไตรมาส 1/65 เทียบกับ 1,200 สาขา เมื่อสิ้นงวดไตรมาส 1/66
ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรยังไม่น่าตื่นเต้นและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 13.3% (-0.3ppts เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และ +0.3ppts จากไตรมาสก่อน) เป็นผลมาจากสัดส่วนรายได้จาก Smartphone โดยเฉพาะ iPhone ยังคงอยู่ในสัดส่วนที่สูง (เป็นผลจากมีการขนส่งสินค้าล่าช้ากว่ากำหนดในไตรมาส 4/65 และโครงการช้อปดีมีคืน (Shop and Payback) ของรัฐบาลในไตรมาส 1/66) และการที่บริษัทมีตัวแทนกระจายสินค้า (Realme) ขณะที่คาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ที่ 7.3% ในไตรมาส 1/66 (เทียบกับ 7.1% ใน ไตรมาส 1/65 และ 6.5% ในไตรมาส 4/65) ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ต้นทุนค่าแรงงาน (คิดเป็นราว 2% ของยอดขายรวม) ต้นทุนค่าสาธารณูปโภค (คิดเป็นราว 0.3% ของยอดขายรวม) และต้นทุนด้านค่าขนส่ง (คิดเป็นราว 0.2% ของยอดขายรวม)
ด้านต้นทุนทางการเงิน คาดว่าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 26 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 เพิ่มจาก 18 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 เป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและมีเงินกู้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ณ สิ้นงวดไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาทเทียบกับ 3.8 พันล้านบาท สิ้นงวดไตรมาส 4/64
ทั้งนี้แม้ว่า COM7 จะรุกขยายสาขาต่อเนื่อง (ตั้งเป้าไว้ 1,400 สาขาร้านในปีนี้) คาดว่าอุปสงค์ของผู้บริโภคยังเป็นปัจจัยหลักที่ท้าทาย (โดยเฉพาะ smartphone คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของยอดขายรวม) โดยฝ่ายวิจัยของ KGI ที่ประเทศไต้หวันมีมุมมองเชิงลบ (bearish) ต่อแนวโน้มการขนส่ง smartphone ที่อาจหดตัวราว 6% YoY ในปี 66 ในขณะที่การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ (business diversification ) ได้แก่ DR.PHARMA ร้าน Petpaw Store และ iCare insurance ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 66 มี upside จำกัด ขณะที่ในระยะยาว ผลเชิงบวกที่จะเกิดจากการรวมธุรกิจ (synergy) จากการขยายสาขาร้านยังเป็นเรื่องที่ควรเฝ้าติดตามต่อไป โดยยังคงเป้าหมายสิ้นปี 66 เอาไว้ที่ 37.00 บาท อิงจาก PER ที่ 26.0 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ COM7) และคงคำแนะนำ “ถือ”