“แคล-คอมพ์” ปลดพนง.กว่าพันคน เซ่นต้นทุนพุ่ง-วิกฤตขาดแคลนชิป
“แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์” ประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 1 พันคน หลังประสบปัญหาต้นทุนในการประกอบกิจการสูงขึ้น รวมถึงวิกฤตการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรม หรืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ CCET ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน จำนวน 1,060 คน
ล่าสุดทางบริษัทได้ออกชี้แจงว่าการดำเนินการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาสถานการณ์การโควิด-19 (COVID-19) แพร่ระบาด ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 63 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อภาคการผลิตสินค้า และภาคขนส่ง เป็นเหตุทำให้ต้นทุนในการประกอบกิจการสูงขึ้น รวมถึงวิกฤตการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรม หรืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจล่าสุด ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงมาตามลำดับจนปี 66 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับลดแก้ไขปัญหาด้านกำลังการผลิต ทำให้มีจำนวนพนักงานเกินความต้องการ (ในสายการผลิต) จึงมีความพยายามที่จะปรับสภาพการทำงานลง และลดจำนวนเวลาทำงานของพนักงานลง ในแบบที่ 2 รวมถึงกะทำงานต่อวัน (12 ชั่วโมง), เป็นแบบ 3 กะทำงาน (ทำงาน 8 ชั่วโมง) ซึ่งการปรับสภาพการทำงานครั้งนี้จะไม่กระทบกับค่าจ้างรายวันของพนักงาน รวมทั้งบริษัทได้เพิ่มเงินพิเศษที่จ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน
โดยที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้พยายามชี้แจงให้พนักงานทุกคนรับทราบถึงความจำเป็นและสภาพการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น เหตุผลการปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน จากทำงานแบบ 2 กะ เป็นทำงานแบบ 3 กะ แต่เนื่องด้วยยังมีพนักงานบางส่วนที่ไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงาน ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มี.ค.66 เวลา 10.00 น. บริษัทฯ จึงจัดให้มีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่างบริษัทฯ หน่วยงานภาครัฐ คือ สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน หน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงแรงงาน ฝ่ายปกครอง และตัวแทนจากฝ่ายลูกจ้าง เพื่อหาทางออกร่วมกัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เชิญผู้แทนจากสถานทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน โดยเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนลงคะแนนเสียงเลือกประเภทกะการทำงานที่ต้องการ ผลการลงคะแนนปรากฏว่า พนักงานส่วนใหญ่ยอมรับและต้องการปรับสภาพทำงานเป็นแบบ 2 กะ คิดเป็นจำนวนถึงร้อยละ 85, พนักงานบางส่วน ยังคงต้องการทำงนแบบ 3 กะ คิดเป็นจำนวนร้อยละ 15
“จากผลการลงคะแนนสำรวจความคิดเห็นของพนักงานนั้น แสดงให้เห็นว่า พนักงานส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ และยอมรับการปรับสภาพการทำงานเป็น 2 กะ อย่างไรก็ดี ภายใต้สภาวการณ์และความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ทางบริษัทฯจึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนที่เกินความต้องการในสายการผลิต เพื่อให้บริษัท ฯ ยังดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ บริษัทก็ได้ชี้แจงให้ทราบถึงผลการเลือก 2 กะ อย่างชัดเจนแล้ว และได้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเรื่องการทำงาน อีกทั้งยังทำงานร่วมกับสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และผู้แทนสถานทูตของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยในการดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริง และกระบวนการเลิกจ้างตามสิทธิที่มีอยู่ในสัญญาจ้างแรงงาน อย่างไรก็ตามบริษัทฯก็ได้จ่ายค่าชดเชย และสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับตามกฎหมาย”
แคล-คอมพ์ฯ ระบุด้วยว่า หากพนักงานที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศต้นทาง (เมียนมา) จะดำเนินการส่งพนักงานกลับประเทศ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเดินทางทั้งฝั่งไทย (ด่านแม่สอด) และฝั่งเมียนม่า กลับภูมิลำเนาเดิมของคนงาน นอกจากนนั้นยังได้ตั้งศูนย์ประสานงานบริการ เพื่อให้การช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลฯ คอยให้บริการฯ ทั้งให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ก็เพื่อประสานงานต่างๆและดูแลเหลือคนงานอย่างเท่าเทียมกันทุกคน