ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงภาคบ่าย เหตุผิดหวังอีซีบี-ซึมซับสัญญาณเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการตัดสินใจขยายระยะเวลาในการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางยุโรปแทนที่จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือน นอกจากนี้ ตลาดยังซึมซับกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่จะจัดการประชุมในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้


ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการตัดสินใจขยายระยะเวลาในการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางยุโรปแทนที่จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือน นอกจากนี้ ตลาดยังซึมซับกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่จะจัดการประชุมในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,164.88 จุด ลดลง 252.13 จุด, -1.12% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 25,810.06 จุด ลดลง 76.56 จุด, -0.30%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นพบว่า ภาคเอกชนปรับขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ยในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2558 เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

รายงานของกระทรวงระบุว่า ค่าจ้างต่อเดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 5,282 เยน (43 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 28 เยน หรือ 1.9% จากปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทำการสำรวจ

นักลงทุนมองว่า ECB ไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมากเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และจากการที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB เลือกที่จะขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพียงอย่างเดียว แทนที่จะดำเนินการทั้งขยายระยะเวลา และเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือน

เมื่อวานนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสสหรัฐว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐ และชาติอื่นๆ

ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า เธอมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซาได้ทำให้เฟดไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วต่อไปหลังจากนั้น

Back to top button