JKN เพิ่มทุน “RO” 3 บ. วันนี้! หวั่นขายไม่หมด ราคาสูงกว่ากระดาน ห่วงชำระหนี้สะดุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (11 เม.ย. 2566) ถึงวันที่ 19 เม.ย. 2566 บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กำหนดเปิดจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 510,043,387 หุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (PPO) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาท

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน RO เพื่อระดมทุนมาใช้ลดภาระดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมของบริษัท ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุน และอัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม รวมถึงเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง ทั้งสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และการขยายธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และพร้อมสำหรับโอกาสในธุรกิจอื่น ๆ ช่วยสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืนในระยะสั้น และระยะยาว

ขณะที่งบการเงิน JKN ล่าสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565  บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จำนวน 347.52 ล้านบาท โดยมีหนี้สินระยะยาวที่กำหนดชำระภายในหนึ่งปี (12 เดือน) จำนวน 1,684.69 ล้านบาท (เป็นหนี้สถาบันการเงิน 323.17 ล้านบาท และหนี้หุ้นกู้ 1,297.73 ล้านบาท และหนี้ระยะยาวอื่น ๆ 63.79 ล้านบาท) สินทรัพย์หมุนเวียน 2,566.98 ล้านบาท หนี้สินหมุนเวียน 3,410.97 ล้านบาท อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 0.75 เท่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) 1.85 เท่า อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) อยู่ที่ 3.01 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (Quick Ratio) อยู่ที่ 0.61 เท่า

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ JKN วานนี้ (10 เม.ย. 2566) ปิดตลาดที่ราคา 2.90 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 3.57% มูลค่าการซื้อขาย 14.32 ล้านบาท โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุด 2.92 บาท และต่ำสุด 2.76 บาท

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง  เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เกี่ยวกับกรณี JKN เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ RO ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่กำหนดให้เปิดจองและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนนั้น ประเมินว่าโอกาสที่ RO จะใช้สิทธิจองซื้อ และชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน JKN เต็มจำนวนค่อนข้างน้อย เนื่องจากราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 3 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาซื้อขายบนกระดานที่ล่าสุดวานนี้

(10 เม.ย. 2566) ปิดตลาดอยู่ที่ 2.90 บาท ซึ่งกรณีที่ RO ที่ใช้สิทธิไม่ครบเต็มจำนวน คาดว่าจะกระทบกับแผนการชำระหนี้ที่ JKN กำหนดไว้ และกระทบต่อแผนการลงทุนที่ JKN ประกาศไว้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจะมาก หรือน้อยต้องรอดูสัดส่วนการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนหลังครบกำหนดเวลาก่อนว่า RO ใช้สิทธิ์มากหรือน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม JKN มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน RO ได้เต็มจำนวนได้ หากราคาหุ้น JKN ที่ซื้อขายบนกระดานปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน RO ที่ 3 บาท ทั้งนี้ ต้องจับตาระยะเวลาเปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 11-19 เม.ย. 2566นี้ ว่าจะมีการดันราคาหุ้นให้บวกเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน RO หรือไม่ ทั้งนี้ หาก JKN ประสบความสำเร็จ RO ใช้สิทธิจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวน จะได้รับเงิน 1,530.13 ล้านบาท บริษัทจะสามารถนำเงินส่วนใหญ่ไปลดหนี้ได้ตามที่ต้องการ และช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืม รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน รวมไปถึงเงินบางส่วนจะนำไปขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 ของ JKN ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าจะออกมาค่อนข้างดี เนื่องจากธุรกิจหลักยังคงสดใส และได้แรงหนุนมาจากธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล Miss Universe Organization (MUO) เข้ามาเสริมด้วย อย่างไรก็ตามต้องรอดูตัวเลขงบการเงินไตรมาส 1/2566 ว่าจะออกมาตามที่ทางผู้บริหาร และนักลงทุนคาดหวังไว้หรือไม่

ก่อนหน้านี้ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ  JKN กล่าวว่า การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน RO ในครั้งนี้ จะทำให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานในปี 2566 ให้ก้าวทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว รับกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น และทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในแง่ของรายได้ และกำไรปรับตัวได้ดีขึ้น

ส่วนกรณีที่ RO ใช้สิทธิเพิ่มทุนไม่ครบเต็มจำนวน เชื่อว่าจะไม่กระทบสภาพคล่อง เนื่องจากจุดหมายในการเพิ่มทุน เพื่อการรองรับขยายธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งฐานเงินสดให้พร้อมไปสู่ระดับโลก ส่วนความสามารถในการชำระหนี้บริษัทมั่นใจว่ามีเงินเพียงพอต่อการชำระหนี้ตามแผน เพื่อลดภาระทางการเงินต่อไป

โดยบริษัทมีแผนนำ MUO มาต่อยอดสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ ในธุรกิจ Commerce เช่น น้ำดื่ม รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งไทย และต่างชาติ เพื่อนำ MUO Brand ไปขยายในธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธุรกิจสปา ร้านอาหาร อะคาเดมี และธุรกิจโรงแรม เป็นต้น นอกเหนือจากการสร้างรายได้ทั้ง 9 ด้าน คาดว่าจะทำรายได้ปี 2566 สูงถึง 1,200 ล้านบาท พร้อมทั้งช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของปี 2566 ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 80% หรือมีรายได้รวม 3,900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2565 ที่มีรายได้รวม 2,670.10 ล้านบาท  ถือเป็นการเติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดอย่างต่อเนื่อง