TEKA วิ่งแรง 4% คว้างานใหม่ ดันแบ็กล็อก 3.4 พันล้าน รับรู้รายได้ถึงปี 68
TEKA วิ่งแรง 4% ราคาแตะ 3.26 บ. หลังคว้างานก่อสร้าง “ARLO LASALLE 17” มูลค่า 328 ล้านบาท ดันแบ็กล็อก 3.4 พันล้านบาท รับรู้รายได้ถึงปี 68 ลุ้นได้งานใหม่เพิ่มขึ้น หลังอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 เม.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA ล่าสุด ณ เวลา 12:12 น. อยู่ที่ระดับ 3.26 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.49% สูงสุดที่ระดับ 3.32 บาท ต่ำสูดที่ระดับ 3.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TEKA ปรับตัวขึ้น หลังคว้างานโครงการ ARLO LASALLE 17 จาก บริษัท เรียลลาซาล 17 จำกัด มูลค่า 328 ล้านบาท โดยนายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEKA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างโครงการ ARLO LASALLE 17 จาก บริษัท เรียลลาซาล 17 จำกัด ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมความสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมมูลค่า 328 ล้านบาท โดยลักษณะงานก่อสร้าง เป็นงานวิศวกรรมโครงสร้างพร้อมงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน เริ่มต้นก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3,456 ล้านบาท โดย Backlog ทั้งหมดจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2568 ซึ่งโครงการใหม่ดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้าง พ.ค. 2566 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ม.ค. 2567 และบริษัทฯ ยังประเมินว่ามีโอกาสรับงานใหม่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ธุรกิจก่อสร้างที่ฟื้นตัวและกลับมาคึกคักตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ TEKA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างมายาวนานร่วม 39 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญในงานอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ มีกลุ่มลูกค้าทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งมีความพร้อมในการขยายโอกาสการรับงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น อาคารคอนโดมิเนียม, โรงแรม, อาคารสำนักงาน, อาคารโรงพยาบาล, อาคารคลังสินค้า เป็นต้น
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สดใสในปีนี้ ส่งผลดีต่อ TEKA ที่จะมีโอกาสรับงานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันได้เร่งรัดงานก่อสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ในมือให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงาน ทั้งด้านรายได้ และอัตรากำไรให้ดีขึ้นจากปีก่อน ซึ่งในปี 2565 TEKA มีรายได้จากการก่อสร้างรวม 1,933.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 338.66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.2% มีกำไรขั้นต้น 277.88 ล้านบาท และมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นเทียบกับรายได้จากการก่อสร้างคิดเป็น 14.38%