SYMC หุ้นที่โลกลืม
การจะลงทุนในหุ้นไม่ใช่ว่าเห็นเป็นหุ้นพื้นฐานดีกำไรสม่ำเสมอ ปันผลได้สม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว อาจยังไม่ครอบคลุมเนื้อหาการลงทุนที่ดีสุด
สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย
คุณพูนศิริ จากตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พูดถึงหุ้น SYMC หรือ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเป็นหุ้นที่ปรับตัวลงแรงมากสุดตัวหนึ่ง และหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากโครงการลงทุนเคเบิ้ลใต้น้ำซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 60 ซึ่งจะมีค่าเสื่อมเป็นตัวกดดันกำไรที่เพิ่มขึ้นไปอีก และทำให้การเติบโตมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จะเห็นได้จากผลการดำเนินงานถดถอยอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งมีพี่คนหนึ่งสรุปให้ฟังว่า ต้นทุนค่าเสื่อม + ต้นทุนทางการเงิน เพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ ทำให้กำไรสุทธิลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมเลิกสนใจหุ้นตัวนี้มานานแล้ว(หุ้นที่โลกลืม) จึงไม่อยากจะวิเคราะห์อะไรให้มากความ แค่ต้องการบอกให้คนในสังคมหุ้นได้รับรู้ และหวังว่า อาจารย์จะช่วยชี้แนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อให้ทุกคนเห็นอีกมุมหนึ่ง
สิ่งที่อาจารย์รู้สึกได้ทุกครั้งเมื่อนักลงทุนเริ่มแสดงความคิดเห็นแปลกๆ หรือไปฟังคนอื่นมาอีกทอดหนึ่ง ย่อมสะท้อนว่า นักลงทุนกำลังติดตามสถานการณ์ของตลาดหุ้นอย่างไม่กระพริบตา จึงพอรู้ความเป็นมาเป็นไปของตลาดหุ้นไทยในระดับหนึ่ง
เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น SYMC หรือ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มันเป็นภาพที่อาจารย์ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ เพราะเนื้อหาดังกล่าวอธิบายการร่วงหล่นของราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่อาจารย์อยากจะเสริมเติมแต่งอีกนิดๆ หน่อยๆ คงเป็นข้อคิดที่มีผู้รู้เขียนไว้เยอะแยะไปหมดว่า
การจะลงทุนในหุ้นไม่ใช่ว่าเห็นเป็นหุ้นพื้นฐานดีกำไรสม่ำเสมอ ปันผลได้สม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว อาจยังไม่ครอบคลุมเนื้อหาการลงทุนที่ดีสุด
เนื่องจากสิ่งที่ควรพิจารณาด้วย คือ นักลงทุนเข้าใจในธุรกิจที่จะทำขนาดไหน?
บริษัทกำไรจากไหน ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจคืออะไร มีคู่แข่งไหม อนาคตมีโอกาสเติบโตบ้างหรือเปล่า
การลงทุนในธุรกิจที่ตนเองก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำธุรกิจอะไร กำไรได้มาจากไหน และขาดทุนเพราะอะไร ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้งให้คนที่ไม่รู้จักกำพืดเอาไปถลุงเล่น
ปี 54 | ปี 55 | ปี 56 | ปี 57 | งวด 9 เดือน ปี 58 | |
รายได้รวม | 705.88 | 819.57 | 1,021.75 | 1,275.39 | 996.96 |
กำไรสุทธิ | 212.34 | 234.25 | 245.58 | 181.71 | 97.91 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.71 | 0.78 | 0.82 | 0.61 | 0.33 |
(หน่วย: ล้านบาท)
สรุปอาจารย์ขอพุดแค่ “ดูกราฟราคาหุ้น” กับ “งบการเงิน” ประกอบการลงทุน แล้วตัวคุณจะลงทุนในบริษัทแบบนี้อีกไหม?
…
กราฟประกอบข่าว: Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 4 ธ.ค.58