พาราสาวะถี
การที่มีอดีต กกต.มาเป็นนักการเมืองเต็มตัวอย่าง สมชัย ศรีสุทธิยากร ก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่ฝ่ายการเมืองจะถูกตรวจสอบโดยผู้มีอำนาจอย่าง 6 เสือ กกต.เท่านั้น
การที่มีอดีต กกต.มาเป็นนักการเมืองเต็มตัวอย่าง สมชัย ศรีสุทธิยากร ก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่ฝ่ายการเมืองจะถูกตรวจสอบโดยผู้มีอำนาจอย่าง 6 เสือ กกต.เท่านั้น แต่ กกต.ทั้งองค์กรก็ถูกตรวจสอบโดยฝ่ายการเมืองเช่นเดียวกัน ปมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อตรวจความเรียบร้อยการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร หมุนเวียนกันไปให้ครบทั้ง 6 คนจนถึงวันที่ 24 เมษายนนี้ มีหลายคนเดินทางกลับมาแล้ว แต่คำถามคือ ไม่เห็นมีภาพประชาสัมพันธ์ แสดงหลักฐานให้ประชาชนเห็นว่าไปทำอะไรมาบ้าง
อดีต กกต.อย่างสมชัยนี่แหละที่เข้าไปตรวจสอบ official page ของสำนักงาน กกต.นับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ถึง 19 เมษายนที่ผ่านมา มีข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมด 112 ชิ้น มีแค่ 1 ชิ้น ที่ลงรูปและกิจกรรมของ กกต.คนเดียวที่ไปตรวจติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 เมษายน ส่วนของ กกต.คนอื่นที่เดินทางกลับมาแล้ว ไม่ปรากฏภาพข่าวประชาสัมพันธ์ว่าแต่ละคนไปทำอะไรบ้าง
แม้แต่เพจที่เป็นของสถานทูตไทย หรือ Royal Thai Embassy ในประเทศต่าง ๆ ที่ กกต.ทั้งหลายไปตรวจติดตาม เช่น แอฟริกาใต้ เคนยา โมร็อกโก เยอรมัน ออสเตรเลีย ฮังการี สโลวาเกีย ก็ไม่ลงภาพข่าวประชาสัมพันธ์ ยกเว้นที่ สวิตเซอร์แลนด์และนิวซีแลนด์ จึงเกิดคำถามจากอดีต กกต.ว่า เป็นเพราะสำนักงาน กกต.อ่อนประชาสัมพันธ์ ไม่อยากประชาสัมพันธ์ หรือไม่มีข้อมูลประชาสัมพันธ์ หรือถูกสั่งไม่ให้ประชาสัมพันธ์ จนมีเสียงค่อนขอดว่ามันจะเอาอะไรมาโปรโมทเมื่อภารกิจหลักคือไปเที่ยวมากกว่าไปทำงาน
เรื่องแบบนี้จะนิ่งเฉยปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะตามข้อมูลซึ่งเป็นที่เปิดเผย การเดินทางไปแต่ละแห่งใช้เงินอย่างน้อยที่ละ 2 ล้านบาท ถ้าไม่ได้งานจะอ้างว่าเป็นความลับเปิดเผยไม่ได้ก็คงไม่ใช่ เนื่องจากยืนยันกันหนักแน่น เป็นการไปตรวจเพื่อนำมาเป็นข้อมูล สรุปบทเรียนว่ากระบวนการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและคุ้มค่าหรือไม่ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาปกปิดอะไร ยิ่งเป็นการไปทำงานด้วยภารกิจที่สำคัญยิ่งต้องประชาสัมพันธ์ให้คนได้เห็นผลงาน
ย้ำมาตลอด ขบวนการสืบทอดอำนาจนอกจากมุ่งมั่นที่จะใช้กลไกอันได้วางแผนกันมาตั้งแต่ก่อน ระหว่างและหลังรัฐประหาร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนอยากอยู่ยาวเต็มที่ ยังมีการใช้ไอโอเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง แต่อย่าลืมว่าในยุคข้อมูลข่าวสารไปได้ทุกทิศทุกทาง และคนรับสารสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง การจะโหมประโคมข่าวเรื่องใดต้องแม่นในข้อมูล และเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่แสดงความโง่ให้คนเห็น
สิ่งสำคัญอย่าลืมว่าการต่อสู้ในแง่ของข้อมูลข่าวสารนั้น ต่างฝ่ายต่างก็มีกุนซือที่ชั้นเชิงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายตรงข้าม พวกเดียวกันเองอย่างพรรคสืบทอดอำนาจพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็มีทีมที่ปรึกษาที่เฝ้าจับตามองกระบวนการขับเคลื่อนของทีมกุนซือผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่เหมือนกัน เรียกได้ว่าทันกันทุกช็อต ล่าสุดที่ทำเอาทีมยุทธศาสตร์ของพรรคสืบทอดอำนาจต้องรีบแก้เกมเป็นการใหญ่ เป็นเรื่องที่น้องรองและน้องเล็กเข้าไปอวยพรพี่ใหญ่ช่วงสงกรานต์
เนื่องจากทีมไอโอของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ พากันนำไปขยายผลนี่เป็นสัญญาณการจับมือของแก๊ง 3 ป.ในการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้พี่ใหญ่ต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกแจกแจงเกี่ยวกับกระบวนการจับมือของแต่ละพรรคการเมืองหลังเลือกตั้ง หากปล่อยให้เรื่องแบบนี้คาราคาซัง กระแสของพรรคสืบทอดอำนาจจะวูบหายตามไปด้วย เรื่องนี้ ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาของพี่ใหญ่ได้ช่วยชี้แจงอีกแรง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความนิยมของคนที่เคยเป็นนายมาก่อน
คำอธิบายของไพศาลนั้นน่าจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงต่อทิศทางการเมืองในเวลานี้และหลังเลือกตั้งไม่น้อย การยืนยันว่า “ไม่เคยมีการตกลงกันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด ๆ การร่วมรัฐบาลนั้นจะต้องปรับนโยบายให้ตรงกัน” ขีดเส้นใต้ในประเด็นที่ว่านโยบายตรงกัน พรรคสืบทอดอำนาจกับเพื่อไทยมีนโยบายตรงกันในการไม่แก้มาตรา 112 เท่ากับเป็นการปฏิเสธข่าวที่ว่า พรรคสืบทอดอำนาจจะไม่ร่วมกับเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลตามที่ขบวนการไอโอปล่อยข่าว
อย่างที่บอก ไม่ว่าจะใช้กลเกมแบบไหนนักเลือกตั้งและพรรคการเมือง โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นคนกันเองย่อมรู้ทันอยู่เสมอ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าขบวนการสืบทอดอำนาจนั้นมีความร้ายกาจของเล่ห์กลทางการเมืองขนาดไหน ปากที่บอกว่าไม่ได้เป็นศัตรูกับใครมันก็ไม่ต่างจากวาทกรรมที่บอกว่าขอเวลาอีกไม่นานจะคืนความสุขให้ประชาชนนั่นแหละ เช่นเดียวกันที่ย้ำมาตลอดข่าววงในยืนยันชัดเจนพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จะไม่กลับไปเป็นคนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่งอีกต่อไปแล้ว
ขณะที่การหาเสียงของพรรคการเมือง หลังจากนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของเพื่อไทยกลายเป็นประเด็นร้อน ถูกค่อนขอดจากพรรคคู่แข่งเป็นการใหญ่ ล่าสุดรวมไทยสร้างชาติของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้เผยแพร่คลิปใหม่ชื่อว่า “มือยาว” แสดงวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำกับทีมเศรษฐกิจว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น พร้อมกับการด้อยค่าพรรคการเมืองอื่นว่านโยบายด้านเศรษฐกิจเป็นการล้วงกระเป๋าคนไทยมาจ่าย โดยไม่ได้ถามคนส่วนใหญ่เลยว่าที่อ้างว่าทำแล้ว ทำอยู่ และจะขอทำต่อนั้น เขารู้สึกกันอย่างไร พอใจหรือไม่
ขณะเดียวกัน มอตโตที่คิดขึ้นมากับคำว่ามือยาวนั้น ก็เกรงว่าคงจะถูกพรรคการเมืองคู่แข่งนำไปขยายผลต่อ สิ่งที่สื่อออกมานั้นต้องการจะบอกว่านโยบายของพรรคท่านผู้นำสนับสนุนเรื่องมือใครยาวสาวได้สาวเอาหรือเปล่า เพราะตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมานั้น มันมีภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่า คนไทยจนทั้งประเทศ มีเพียงคนแค่หยิบมือที่ได้รับอานิสงส์จากการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น มือยาวจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกวิจารณ์ว่าน่าจะเป็นภาคต่อของการทำงานแบบอุ้มคนรวยนั่นเอง