ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 369 จุด! รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานที่พุ่งมากเกินคาดของสหรัฐ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (4 ธ.ค.) ที่ 17,847.63 จุด เพิ่มขึ้น 369.96 จุด หรือ +2.12%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,142.27 จุด เพิ่มขึ้น 104.74 จุด หรือ +2.08% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,091.69 จุด เพิ่มขึ้น 42.07 จุด หรือ +2.05%

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%

ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 197,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 14,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 298,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 271,000 ตำแหน่ง และทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเพิ่มขึ้นสู่ 145,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 137,000 ตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวย้ำเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวอย่างแข็งแกร่งตามที่มีการคาดการณ์กันไว้ ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณอีกครั้งหนึ่งถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ “ดิฉันมองว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเพียงพอในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าที่จะทำให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นต่อไป” นางเยลเลนกล่าวในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสสหรัฐ

“การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ประกอบกับการพิจารณาของดิฉันที่ว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้ดิฉันมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่ระดับ 2% ขณะที่ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อต่ำจากราคาน้ำมันและสินค้านำเข้าเริ่มเบาบางลง” ประธานเฟดกล่าว

การแถลงของนางเยลเลนดังกล่าวมีเนื้อหาสอดคล้องกับที่ได้แถลงเมื่อวันพุธ ซึ่งนางเยลเลนส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนนี้ โดยได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นชาร์ลส์ ชวาบ คอร์ปอเรชั่นพุ่งขึ้น 4.6% ขณะที่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ และแบงก์ ออฟ อเมริกาปรับตัวขึ้นมากกว่า 2.5%, หุ้นธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนลพุ่งขึ้นกว่า 3.4% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลพุ่งขึ้น 2.8% ส่วนหุ้นสายการบินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์สพุ่งขึ้น 4.4%

Back to top button